ส.ว.พูดชัด ไม่โหวต ให้ พิธา เป็นนายกฯ คนที่ 30 ปมแก้ ม.112 ถามแก้เพื่ออะไรด้อยค่าหรือไม่
เมื่อช่วงเย็น วันที่ 16 พฤษภาคม นายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา ได้ให้สัมภาษณ์ ในกรรมกรข่าวคุยนอกจอ (ยามเย็น) โดยมี สรยุทธ สุทัศนะจินดา เป็นพิธีกร โดยนายจเด็จ ได้ระบุช่วงหนึ่งว่าได้มีการเสนอตรวจสอบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับนายพิธา และพรรคก้าวไกล ใน 3 ประเด็น ได้แก่ เรื่องหุ้นสื่อ เรื่องการจงใจละเมิดต่อสถาบัน เรื่องการครอบงำพรรค เพื่อส่งให้ กกต.พิจารณา
โดยจะทำให้เสร็จภายใน 1 เดือน ก่อนโหวตนายกฯ ซึ่ง ส.ว. ไม่ได้มีหน้าที่ตรวจสอบ แต่มีหน้าที่รวบรวมหลักฐานให้ กกต. เพราะเพิ่งได้ข้อมูลมาใหม่ เกรงว่า กกต.จะได้รับไม่ครบ จึงจะส่งให้เพิ่มเติม ส่วนเรื่องการโหวต พิธาเป็นนายกฯ ตนยืนยันไม่โหวต เพราะรับไม่ได้เรื่อง ม.112 ตนเกิดคำถามว่าแก้ไขทำไม จะทำให้โทษเบาลงทำไม แนวทางนี้เป็นการต้องการด้อยค่าสถาบัน แต่ถ้าแก้ไขแล้วเพิ่มโทษ อันนี้ยอมรับได้
“อยากให้มีการตรวจสอบหลักฐาน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เรื่องหุ้นสื่อ TV เรื่อง ม.112 ทั้งท่าทีการแสดงออกรวมถึงท่าทีของพรรค เรื่องการหมิ่นประมาท และการครอบงำพรรค โดยจะดำเนินการให้เสร็จภายใน 1 เดือน เพื่อให้ทันกับการที่ กกต. พิจารณาว่าจะรับรองหรือไม่ หลังนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ”
นายจเด็จยังระบุว่า จะไม่โหวตให้กับนายพิธาเป็นนายก เพราะเกี่ยวกับ ม.112 เพราะนายพิธาไปบอกว่าจะแก้ไขแล้วยกเลิก ตนอยากถามว่าจะแก้ทำไม ช่วยตอบคำถามหน่อยแก้เพื่อให้โทษเบาลงทำไม เพื่ออะไรเพื่อจะได้ดูหมิ่น กล่าวคำดูหมิ่นสถาบันง่ายขึ้นหรือไม่ แต่ยินดีถ้าแก้แล้วเพิ่มโทษขึ้นมา แต่แก้เพื่อให้คนวิจารณ์สถานบันได้ใช่หรือไม่ ตนบอกอย่างนี้ก็แล้วกันว่า แนวทางแบบนี้แก้ไขเพื่อด้อยค่าสถาบันใช่ไหม ตนกล่าวหาอย่างนี้ก็แล้วกัน
นายจเด็จกล่าวอีกว่า โดยที่จริงมีอีกหลายข้อแต่ว่าหลักๆ คือปม ม.112 ซึ่งจะทำให้เกิดความแตกแยกดูเหมือนดีนะระบอบประชาธิปไตย ให้ความเห็นชอบเขาได้ แต่เราถูกย้อมความคิดว่าในเรื่องระบอบประชาธิปไตยว่าต้องใช้เสียงข้างมาก แต่เสียงข้างมาก ความหมายของประชาธิปไตยไม่เหมือนกัน ต้องมองหลายด้าน ทั้งตัวบุคคล แนวทาง นโยบาย ฯลฯ”
