เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พล.อ. วิทวัส รชตะนันทน์ ผู้ตรวจการแผ่นดินปฏิบัติหน้าที่แทนประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยภายหลังการเดินทางมาพบผู้ใช้แรงงานและผู้ประกอบการ ณ วัดป่าพุทธรังษีโซล สาธารณรัฐเกาหลีว่า ผู้ตรวจฯได้รับทราบถึงปัญหาการดำรงชีวิตของแรงงานไทยและความไม่เป็นธรรมในการขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐในเกาหลี ซึ่งบางกรณีอาจต้องเร่งประสานให้ความช่วยเหลือทันที เช่น กรณีแรงงานไทยไม่สามารถต่อวีซ่าได้เพราะอายุเกิน 40 ปี ส่วนนายจ้างก็ไม่ยอมให้กลับประเทศเนื่องจากเป็นคนดีนายจ้างไว้วางใจและร้องขอให้อยู่ช่วยงานตลอดไปและรู้ใจกันมากเพราะทำงานมานานกว่า 17 ปี กรณีนี้เลยกลายเป็นโรบินฮูด ซึ่งตัวผู้ใช้แรงงานเองก็บอกว่าต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ค่อนข้างลำบากหลบซ่อนซึ่งเรื่องนี้ทางหน่วยงานคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตและคุ้มครองสิทธิพลเมือง(ACRC) แห่งสาธารณรัฐเกาหลี รวมถึงผู้แทนสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีมารับฟังปัญหาด้วยซึ่งจะมีการประสานกันในระดับนโยบายกันต่อไป หากมีการเสนอแนะแก้ไขระเบียบอาจทำให้ปัญหาได้รับการแก้ไขในเชิงระบบได้ กรณีนี้ทางACRCไม่นิ่งนอนใจพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือควบคู่กับกระทรวงแรงงานของเกาหลีโดยขอให้แจ้งเหตุว่าเกิดไรขึ้นจะได้รีบตรวจสอบและสอบสวนหากนายจ้างมีความผิดจะโดนลงโทษตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามหน่วยงานรัฐไม่เคยละทิ้งประชาชน แต่ทางกลับกันทุกคนต้องรักษากฎ กติกาด้วยหากมีการเข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมายจะทำให้การช่วยเหลือนั้นราบรื่นสะดวก รวดเร็ว
“ที่สำคัญและไม่อยากให้เกิดขึ้นเลยคือปัญหายาเสพติด เพราะจะทำลายภาพพจน์ของประเทศไทย อยากให้ทุกคนบอกต่อกันถึงโทษและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ส่วนเรื่องการลักลอบหนีเข้าเมืองเป็นปัญหาใหญ่มาก ครึ่งหนึ่งของผู้ใช้แรงงานเข้ามาอย่างไม่ถูกต้อง อยู่อย่างหลบซ่อนไม่มีความสุข ทำลายชื่อเสียงของประเทศไทย เศรษฐกิจการท่องเที่ยว คนที่มาเที่ยวจริงก็เข้าประเทศเกาหลีอย่างลำบาก รวมทั้งตัดโอกาสคนที่ตั้งใจเข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมายซึ่งส่วนมากจะลักลอบเข้ามาประกอบอาชีพนวด ซึ่งเป็นอาชีพสงวนของประเทศเกาหลี”พล.อ.วิทวัส กล่าวว่า ทางผู้ตรวจฯจะเสนอแนะไปทางรัฐบาลไทยเพราะหลายเรื่องเป็นเรื่องระดับนโยบายระหว่างประเทศ ดังนั้นต้องมีการหารือกันในระดับประเทศด้วย ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินจะรวบรวมปัญหาทั้งหมดที่ได้รับทราบจากการเดินทางมาครั้งนี้ไปยังรัฐบาลไทยอย่างเร่งด่วนต่อไป
นางกาญจนา วงศ์สุวรรณ์ อัครราชทูตฝ่ายแรงงานประจำสถานทูตไทยในเกาหลี กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินไทยมาเยือนแรงงานไทยในเกาหลี เนื่องจากมีปัญหาด้านแรงงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งต้องผลักดันและการสนับสนุนการทำงานทั้งจากหน่วยงานรัฐทางประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานรัฐในเกาหลี การที่ผู้ตรวจการแผ่นดินไทยลงนามความร่วมมือกับACRC แห่งสาธารณรัฐเกาหลี ทำให้กระทรวงแรงงานมีเครือข่ายในการประสานเพื่อขอรับความช่วยเหลือ เยีวยวยา แก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้สะดวกยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตัวเลขแรงงานไทยที่ถูกกฏหมายมีประมาณ 40,000 คน ลักลอบประมาณ 55,000 คน
