สุวัจน์ ยกคำน้าชาติ No problem ก้าวไกลล้มดีล ร่วมรบ. เผยได้แจ้งกรณ์แล้ว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 พฤษภาคม นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยนายประสาท ตันประเสริฐ ว่าที่ส.ส.นครสวรรค์ นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ว่าที่ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อและนายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า ได้เปิดแถลงข่าวที่สำนักงานพรรคชาติพัฒนากล้าอ.เมืองนครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นเข้าร่วมรัฐบาลพรรคก้าวไกล ที่สำนักงานพรรคชาติพัฒนา จ.นครราชสีมาว่า อย่างที่ให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ ว่ายังไม่มีคนติดต่อมา ชาติพัฒนากล้า เป็นรัฐบาลก็ได้ ฝ่ายค้านก็ได้ เพราะมีแค่ 2 เสียง หลังการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรค 313 เสียง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลได้ติดต่อมาที่พรรคชาติพัฒนากล้าเพื่อเข้าร่วมรัฐบาล เพราะขณะนี้ รัฐบาลได้เสียงไม่พอ ซึ่งชาติพัฒนากล้า ไม่ได้เป็นฝ่ายไปติดต่อกับใคร
นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า ชาติพัฒนากล้า ได้พิจารณาว่า 1.อยากเห็นการเมืองมีเสถียรภาพ 2.อยากเห็นรัฐบาลเสียงข้างมา และ 3. ยึดถือประเพณีว่า ใครที่ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 ต้องเป็นคนริเริ่มจัดตั้งรัฐบาล ก็ได้พิจารณาว่า เขาได้เสียงข้างมาก รวมเสียงเกินครึ่ง เมื่ออยู่ในองค์ประกอบ เขามาเรียนเชิญ ก็เหมือนส่งการ์ดเชิญ ก็ตอบรับในหลักการ เป็นหน้าที่ที่ชาติพัฒนากล้า ต้องสนับสนุนให้จัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง เพราะทุกครั้งไม่มีเซ็นเอ็มโอยู ถือเป็นมิติใหม่ในการจัดตั้งรัฐบาล จึงออกหนังสือประชุมพรรค เพื่อศึกษาว่าทุกคนเห็นด้วยไหมประเด็นใด เพราะต้องไปเซ็นเอ็มโอยู
“จากการที่พรรคก้าวไกล แถลงเพิ่มเติม ว่ายุติการเจรจา ก็ได้แจ้งมา ก็ No problem ไม่มีปัญหาอะไร เพราะอยู่ขั้นตอนการตอบรับคำเชิญอย่างเป็นทางการ เพราะเป็นช่วงการประชุมคณะกรรมการพรรค ขณะนี้ ได้รับแจ้งและได้รับทราบ จากถ้อยแถลง ก็ไม่ได้มีประเด็นอะไร” นายสุวัจน์ กล่าว
“ผมถือโอกาสนี้ ขอบคุณพรรคก้าวไกล ที่ให้เกียรติมาเรียนเชิญพรรคชาติพัฒนากล้า เราก็ให้การสนับสนุนแนวทางนี้อยู่แล้ว ว่าพรรคที่ได้ที่ 1 จัดตั้งรัฐบาล และให้มีเสถียรภาพ ให้เกียรติเราทั้งที่เรามี 2 เสียง การมี 2 เสียง การตัดสินใจทางการเมืองที่มี 2 เสียง จะไปต่อรองอะไรกับ 500 เสียง เป็นการตัดสินใจเพื่อให้การเมืองไปข้างหน้า การเมืองต้องหันหน้าเข้าหากัน พุดคุยกันได้ ชาติพัฒนากล้า ก็มีแนวทางนี้มาตลอด เราไม่เคยสร้างปัญหา ก็อยากจะชี้แจงให้ทราบ และขอบคุณก้าวไกล ที่ได้เรียนเชิญพรรคชาติพัฒนากล้า”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุวัจน์ ยังได้ระบุว่า จากนี้คงไม่ต้องประชุมกรรมการบริหารพรรคแล้ว และ หากมีเรื่องใด ก็พร้อมจะพูดคุยกันได้ตลอด อย่างไรก็ตาม ในประเด็นอื่น ต้องเป็นไปตามขั้นตอน
“มันเป็นสปิริต เรามี 2 เสียง การเมืองวันนี้ ไม่ได้ตัดสินใจเพื่อต่อรอง แต่เพื่อบ้านเมืองมากกว่า เพราะว่ามีแค่ 2 เสียง ก็ไม่ได้มีความรู้สึกไม่ดี ก็ยังพูดคุยได้ พรรคชาติพัฒนากล้า ผมพยายามจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพรรคการเมือง เชิญมาก็ให้ความร่วมมือ ยุติก็ให้ความร่วมมือ พรรคชาติพัฒนากล้า เราอยู่บนพื้นฐาน อะไรทำให้ได้ก็มีเหตุผล ทำให้ไม่ได้ก็มีเหตุผล ทุกคนคือเพื่อนกัน เราไม่ได้เป็นศัตรูอะไรกับใคร เราเป็นมิตรทุกฝ่าย เปิดกว้าง”
นายสุวัจน์ ได้กล่าวถึง นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ว่า หัวหน้าพรรคก็ไปเที่ยวออสเตรเลีย ผมก็โทรคุยกับหัวหน้าพรรค แจ้งให้ทราบว่ามีการเชิญจากพรรคก้าวไกล เห็นบอกเที่ยวอยู่ออสเตรเลีย ก็บอกต้องบินกลับมาด่วนนะ มีประชุมวันจันทร์ ก็คงจะโทรไปบอกว่าให้เที่ยวต่อไป ไม่ต้องประชุมแล้ว
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกันอย่างไรบ้างกับนายกรณ์ นายสุวัจน์ กล่าวว่า เพียงแต่ว่า โทรบอกเขา ว่าพรรคก้าวไกล ติดต่อมา เข้าร่วมรัฐบาล นายกรณ์ว่าอย่างไรกัน ก็เลยเห็นพ้องว่าต้องการประชุม เลยออกเอกสารการประชุมวันจันทร์ เรื่องอื่นตนไม่ทราบ ไมได้คุยกับเขา พอมีเรื่องยุติการเจรจา ด้วยเหตุผลนี้ 1-2-3 ตามที่ก้าวไกลได้ชี้แจง นายกรณ์จะยังไงดี ไม่ต้องมาก็ได้มั้ง ก็เที่ยวต่อไปเลย ทำนองนั้น
นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า เคารพการตัดสินใจของก้าวไกล ไม่มีปัญหา ตนชอบเหตุและผล พูดคุยได้ อย่างไรก็บอกมา ยังคุยกันได้ปกติ เหตุผลอะไรผมไม่ไปก้าวล่วง
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า มีพรรคอื่น หรือฝ่ายค้าน ติดต่อเข้ามาด้วยหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ไม่มี เข้าใจว่าเพราะผมพูดชัดเจน ว่าพรรคที่ 1 ต้องเริ่มต้น วันนี้ทุกพรรคให้เกียรติประชาชน ยังไม่เห็นพรรคไหนขยับไปในทางไม่ให้เคารพเสียงประชาชน บรรยากาศตอนนี้นิ่ง ให้เกียรติก้าวไกล ถ้าใครขยับต้องมีคนติดต่อมา แต่ไม่มี การเมืองเราต้องถือว่าเป็นสุภาพบุรุษ ก็ดีนะ ไม่เหมือนทุกครั้ง ไม่ได้ข่าวว่ามีการขยับ เรียบร้อย เป็นเรื่องที่ดี
ขณะที่ประเด็นการแก้ไขม.112 นั้น นายสุวัจน์กล่าวว่า ยืนยันตามที่ได้ขึ้นเวทีดีเบต ว่าให้คงไว้
“บริบทจากนี้ ค่อนข้างชี้ชัด ว่าการเมืองจากนี้ไป ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง การเลือกตั้งครั้งนี้ ให้ประสบการณ์ใหม่กับทุกพรรคการเมือง ว่า วันนี้ ถ้าจะชนะเลือกตั้ง อะไรคือคำตอบ” นายสุวัจน์ กล่าว
