ก้าวไกล แย้มเนื้อหา MOU ชวนฟังเต็มๆ 16.30 น. 22 พ.ค. เวลาเดียวกับ คสช.รัฐประหาร

แฟ้มภาพมติชน

ก้าวไกล แย้มเนื้อหา MOU มีวาระ 2 ส่วน ยันผลการพูดคุยบรรลุผลด้วยดี ชวนฟังเต็มๆ ตอน 16.30 น. 22 พ.ค. เวลาเดียวกับ คสช.ทำรัฐประหาร

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเอกสาร “เอ็มโอยู” ระหว่าง พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งทุกพรรคจะทำความเห็นเพิ่มเติม หรือปรับแก้ไข พร้อมส่งกลับมาที่พรรคก้าวไกลในวันนี้ (21 พฤษภาคม) นั้น

ล่าสุด พรรคก้าวไกลระบุทางเพจเฟซบุ๊กว่า ประเทศไทยจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรภายใต้รัฐบาลก้าวไกล? MOU คืออะไร?

พรรคก้าวไกลยืนยันมาโดยตลอดตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งว่าการจัดตั้งและร่วมรัฐบาลระหว่างพรรคการเมืองควรต้องเอาวาระ หรือนโยบายเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่กระทรวง หรือตำแหน่งเป็นตัวตั้ง

Advertisement

ในฐานะพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจเป็นอันดับหนึ่ง เราได้เดินหน้าเพื่อเป้าหมายในการจัดตั้งรัฐบาลกับ 8 พรรคการเมือง (รวมทั้งหมด 313 คน) ที่เราเชื่อว่ามีอุดมการณ์และมุมมองต่ออนาคตประเทศไทยที่อยากเห็น ที่สอดคล้องกันในภาพรวม

ในเมื่อรัฐบาลก้าวไกลเป็นรัฐบาลผสมที่ประกอบไปด้วยหลายพรรคการเมือง เราจำเป็นต้องเคารพความเห็นที่แตกต่างเชิงนโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลอื่น โดยคำนึงถึงความไว้วางใจที่พรรคการเมืองเหล่านี้ได้รับจากประชาชนมาผ่านคูหาเลือกตั้งเช่นกัน

ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนได้รับความชัดเจนว่ารัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคก้าวไกลจะผลักดันวาระอะไรบ้าง เราแบ่งวาระออกเป็น 2 ส่วน

Advertisement

1.วาระ “ร่วม” ของทุกพรรคร่วมรัฐบาล (ระบุใน MOU) วาระและนโยบายที่ทุกพรรคเห็นตรงกัน พร้อมผลักดันร่วมกันผ่านกลไกบริหารและนิติบัญญัติ และพร้อมรับผิดชอบร่วมกัน

2.วาระ “เฉพาะ” ของแต่ละพรรคการเมือง (ไม่ถูกระบุใน MOU) วาระและนโยบายที่แต่ละพรรคขับเคลื่อนเอง เพิ่มเติมจาก (แต่ต้องไม่ขัดแย้งกับ) นโยบายใน MOU ผ่าน 2 กลไกหลัก

2.1 ผลักดันผ่านกลไกบริหารของกระทรวงที่พรรคมีตัวแทนเป็นรัฐมนตรี เช่น (หากพรรคก้าวไกลบริหารกระทรวงศึกษาธิการ) นโยบายการศึกษานอกเหนือจากใน MOU ที่อยู่ในขอบเขตอำนาจของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ

2.2 ผลักดันผ่านกลไกนิติบัญญัติของระบบรัฐสภาโดยผู้แทนราษฎรของพรรค เช่น กฎหมาย 45 ฉบับที่พรรคพร้อมเสนอสู่สภาทันทีที่สภาเปิด ไม่ว่าจะปรากฏอยู่ใน MOU หรือไม่

พรรคก้าวไกลเรายืนยันว่าจะพยายามเต็มที่ในการผลักดัน 300 นโยบายก้าวไกลที่เราสื่อสารกับประชาชนก่อนเลือกตั้งให้สำเร็จ โดยการพยายามบรรจุนโยบายเข้าไปในวาระ “ร่วม” หรือ MOU ให้ได้เยอะที่สุด

ขณะที่นโยบายอะไรที่ไม่ถูกบรรจุใน MOU เราจะผลักดันต่อผ่านกระทรวงที่พรรคก้าวไกลบริหารและผ่านจำนวนผู้แทนราษฎร 152 คน ที่เรามีในสภาผู้แทนราษฎร

แม้กระบวนการจัดตั้งรัฐบาลลักษณะนี้อาจเป็นสิ่งใหม่สำหรับสังคมไทย แต่พรรคก้าวไกลเชื่อว่ากระบวนการดังกล่าวที่อ้างอิงจากหลายประเทศที่เป็นประชาธิปไตยทั่วโลก จะเป็นกระบวนการที่สร้างบรรทัดฐานใหม่ในประเทศ ที่ยกระดับความมั่นใจของประชาชนต่อระบบการเมืองไทย และเพิ่มความชัดเจนกับประชาชนว่าในบริบทของรัฐบาลผสมที่ประกอบไปด้วยหลายพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาด้วยนโยบายที่ทั้งมีจุดร่วมและจุดต่างกัน รัฐบาลผสมนี้จะร่วมผลักดันและรับผิดชอบวาระอะไรเพื่อประชาชน

ฝากทุกท่านติดตามการแถลงข่าวตั้งรัฐบาลและการเปิดรายละเอียด MOU ที่ทุกพรรคร่วมลงนามกันได้ในวันพรุ่งนี้ (22 พฤษภาคม) เวลา 16.30 น.

ขณะที่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุเพิ่มเติมทางทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า ผลการพูดคุยเพื่อจัดทำ MOU ร่วมกันในวันนี้บรรลุผลไปได้ด้วยดีครับ พรรคก้าวไกลต้องขอขอบคุณหัวหน้าพรรคและแกนนำของทุกพรรคที่เราจะจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย โดยยึดเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง พรุ่งนี้พวกเราจะแถลง MOU ในเวลาเดียวกันกับการประกาศ รปห.เมื่อ 9 ปีก่อน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image