‘เพื่อไทย’ จัดสัมมนาให้กำลังใจผู้สมัครส.ส. ยันรีแบรนด์ ไม่ลืมตัวเอง ด้าน ‘ประเสริฐ’ ลั่น ปรับทัพลุยโซเชียล

‘เพื่อไทย’ จัดสัมมนาให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส. ยันรีแบรนด์ ไม่ลืมตัวเอง ด้าน ‘ประเสริฐ’ ลั่น ปรับทัพลุยโซเชียล

เมื่อเวลา 10.15 น. วันที่ 24 พฤษภาคม ที่ชั้น 7 พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการจัดประชุมสัมมนาผู้สมัคร ส.ส.พรรค พท. เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองภายหลังการเลือกตั้ง โดยมีแกนนำ คณะกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ ทั้งที่ได้เข้าสภา และไม่ได้เข้าสภา เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง อาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค, นายเศรษฐา ทวีสิน, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค พท., นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำพรรค และนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

จากนั้น เวลา 12.15 น. นพ.ชลน่านแถลงข่าวการสัมมนาว่า วันนี้พรรค พท.เชิญสมาชิกพรรค มาพูดคุยสัมมนาในหัวข้อ “ประสานกำลังใจ ก้าวเดินต่อไปเพื่อพี่น้องประชาชน” เพื่อให้กำลังใจและขอบคุณทุกคนในการทำหน้าที่ แม้ผลการเลือกตั้งจะได้ ส.ส.มาเป็นอันดับสอง แต่เรายังชื่นชมผู้สมัครที่ทำงานอย่างหนัก แม้ไม่ได้รับการตอบรับก็ไม่ถือว่าเลวร้ายก็ให้กำลังใจกัน โดยวันนี้เราได้บอกทิศทางของพรรคว่าจะเดินต่อไปอย่างไร และขณะนี้พรรคกำลังทำอะไรกันอยู่ ทั้งงานในฐานะพรรคร่วม งานในสภา ที่สำคัญการทำพื้นที่ต้องทำต่อเนื่อง

นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนได้เน้นย้ำถึงการประเมินผลการเลือกตั้ง มีคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่งมี นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรค เป็นหัวหน้าทีม โดยเราได้มอบภารกิจไปให้ผู้สมัครแต่ละคนไปประเมินตัวเองว่ามีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร เพื่อนำมาเป็นข้อมูลนำเข้ามาสัมมนาครั้งต่อไป และให้พื้นที่ประเมินส่วนกลางในการสนับสนุนการเลือกตั้งด้วย เราจะไม่ชี้หน้าด่ากันแต่จะร่วมกันทำโดยยอมรับข้อเท็จจริงทั้งหมดเพื่อนำข้อเท็จจริงมาปรับให้ก้าวเดินกันต่อไป โดยแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้งสองท่าน ให้กำลังใจทุกคนโดยยอมรับว่าเราแพ้ในการเลือกตั้ง แต่ทำอย่างไรให้ก้าวไปให้ได้ โดย น.ส.แพทองธารระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่การล่มสลาย แต่จะเป็นแรงขับสำคัญให้เราคงอยู่ต่อไป

Advertisement

“พรรคพร้อมเดินหน้าสนับสนุนการทำหน้าที่ของผู้สมัครของเรา ขณะที่นายเศรษฐาได้พูดถึงภารกิจที่ต้องทำต่อโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงรูปแบบต่างๆ ในการรีแบรนด์ มีคณะทำงานขึ้นมาดูว่า เราจะมีแนวทางทำเรื่องนี้อย่างไร” นพ.ชลน่านกล่าว

เมื่อถามว่า การรีแบรนด์พรรค พท. จะเหมือนของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขณะนี้เรายังไม่ได้คุยถึงรูปแบบว่าจะเป็นอย่างไร แต่ต้องไม่ลืมความเป็นตัวตนของพรรค ไม่ก้าวล้ำจนทิ้งความเป็นตัวตนของพรรคไป และจะไม่เลียนแบบใคร เรามีอัตลักษณ์เป็นของเราเอง

ด้านนายประเสริฐกล่าวว่า บรรยากาศการสัมมนาวันนี้เป็นไปด้วยความอบอุ่น ทุกท่านทำงานอย่างหนัก หลังจากนี้ได้ให้แนวทางผู้สมัครทั้งคนที่ได้รับเลือกตั้งและไม่ได้รับเลือกตั้งว่า ก่อนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะมีเรื่องการร้องเรียน ทั้งเราเป็นคนร้องและถูกร้อง โดยฝ่ายกฎหมายของพรรคจะไปอำนวยความสะดวก รวมถึงการยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายที่ต้องดำเนินการภายใน 90 วัน เราได้ติวและแนะนำให้ฝ่ายบัญชีของผู้สมัครแต่ละคนได้มาทำความเข้าใจ และกรณีมีการรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว ก็ให้ผู้สมัครเตรียมความพร้อมยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และเรายังให้ข้อคิดเกี่ยวกับการเลือกตั้ง คือ นโยบาย กระแสการเมือง และการลงพื้นที่ ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง

Advertisement

นายประเสริฐกล่าวต่อว่า เราเน้นให้ทุกคนลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพราะ พท.มีจุดแข็งในการเอาปัญหาของประชาชนมาสะท้อนต่อพรรคเพื่อนำไปแก้ไขในอนาคต อีกทั้งในการเลือกตั้งครั้งนี้เราตั้งข้อสังเกตว่าโซเชียลมีเดียมีผลอย่างยิ่ง ประเทศไทยมีผู้ใช้โซเชียลกว่า 50 ล้านคน เพราะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงเราจึงให้ความสำคัญตรงนี้ และสิ่งที่เห็นอีกอย่างคืออุดมการณ์ด้านการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยยังสำคัญ คนที่ย้ายฝ่ายจากพรรค พท.ออกไป 10 กว่าคนสอบตกเกือบหมด รอดมาแค่ 1-2 คน เป็นอุทาหรณ์สำหรับนักการเมืองที่ไร้อุดมการณ์ โดยเรามองไกลไปถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป เรื่องโซเชียลยังเป็นสมรภูมิ ที่ต้องต่อสู้กันรุนแรงมากขึ้น ทุกพรรคหันมาทำตรงนี้ ตนเชื่อว่าพรรค พท.มีความเป็นสถาบันการเมือง เวลาที่ผ่านมาเรามีจุดยืนที่มั่นคงในระบอบประชาธิปไตยแม้มีอะไรเกิดขึ้นเรายืนข้างประชาชน

เมื่อถามว่า การบ้านที่มอบหมายให้ผู้สมัครทุกคนไปวิเคราะห์ประเมินตัวเอง มีกำหนดส่งเมื่อไหร่ นายประเสริฐกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดเวลา แต่ให้ทุกคนเริ่มประเมิน วิเคราะห์สถานการณ์ในพื้นที่ตัวเอง ทั้งจุดอ่อน จุดแข็ง ปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกตั้ง จากนั้นจะให้ส่งผลการประเมินกลับมาที่พรรคโดยเร็ว หลังจากนั้นคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พท.จะได้ประเมินเพื่อถอดบทเรียนการเลือกตั้งครั้งนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image