‘สมศักดิ์’ เผยประธานสภา ‘ก้าวไกล’ ควรได้ ชี้ ‘อายุ’ ไม่เกี่ยวขึ้นอยู่กับปฏิภาณไหวพริบ

ขอบคุณภาพจาก มติชนสุดสัปดาห์

‘สมศักดิ์’ เผยประธานสภา ‘ก้าวไกล’ ควรได้ ชี้ ‘อายุ’ ไม่เกี่ยวขึ้นอยู่กับปฏิภาณไหวพริบ

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ ใน รายการ The Politics ถึงประเด็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ถูกจับตาว่าจะเป็นผู้ที่มาจากพรรคที่คะแนนเสียงอันดับหนึ่ง หรือจากพรรคร่วมรัฐบาล

โดยพิธีกรได้ถามว่า ตำแหน่งประธานสภาถ้ายึดโดยหลักการ โดยธรรมเนียมแล้วต้องเป็นพรรคก้าวไกล หรือพรรคเพื่อไทย นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตนถามกลับง่ายๆ ว่า ถ้าวันนี้พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเป็นลำดับ 1 เพื่อไทยจะให้ตำแหน่งประธานสภากับพรรคก้าวไกลไหม

พรรคที่ได้เสียงอันดับ 1 โดยมารยาท โดยกติกา โดยสากลก็ต้องได้เป็นประธานสภาอยู่แล้ว เพราะเลือกโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการที่มาคุยเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ก็มักจะให้เกียรติพรรคที่ได้เสียงข้างมาก ยกเว้นการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ที่คะแนนสูสีจึงยกตำแหน่งประธานสภาให้ ชวน หลีกภัย ดังนั้น ตำแหน่งประธานสภาควรจะเป็นของก้าวไกล

Advertisement

ส่วนคุณสมบัติของประธานสภานั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ อยู่ที่คติ ปฏิภาณไหวพริบของคนที่มาทำหน้าที่ ไม่ได้เกี่ยวกับอายุมากหรือน้อย เวลานั่งอยู่บนบัลลังก์ จะมีเลขาธิการสภาหรือเลขาธิการของวุฒิสภา ในกรณีที่เป็นการประชุมร่วม ก็จะนั่งเป็นพี่เลี้ยงอยู่ใกล้ๆ

เวลามีประเด็นถกเถียงเรื่องข้อบังคับ เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่เป็นเลขาฯ ก็จะชอร์ตโน้ตขึ้นไปแจ้งถึงระเบียบข้อบังคับและรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องมาให้ เพื่อให้ประธานสภาประกอบการตัดสินใจและวินิจฉัย ซึ่งไม่ยากในการทำงาน ดังนั้นเรื่องอายุไม่เกี่ยว อยู่ที่ว่าสามารถคุมได้หรือไม่เท่านั้น

ถ้าเคสนี้ยังตกลงกันไม่ได้ว่าพรรคไหนจะได้ประธานสภา แล้วปล่อยให้เกิดการฟรีโหวตในสภานั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า ถ้าปล่อยให้ฟรีโหวต พรรคก้าวไกลจะแพ้พรรคเพื่อไทย เนื่องจากพรรคก้าวไกลเป็นพรรคการเมืองใหม่ เรื่องเหลี่ยมคูทางการเมืองอาจจะไม่ทันพรรคเพื่อไทย และที่สำคัญความเป็นมิตรของพรรคเพื่อไทย ในระหว่าง 8 พรรคที่มาร่วมจัดทำรัฐบาลนั้น เพื่อไทยก็จะได้เปรียบเพราะแต่ละพรรคก็แตกกิ่งก้านมาจากพรรคเพื่อไทย เช่น พรรคประชาชาติ และพรรคเพื่อไทยรวมพลัง

Advertisement

ส่วนอยากจะมีอะไรบอกเป็นข้อคิดพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยในประเด็นนี้ ว่า ขณะนี้ บ้านเมืองต้องการก้าวเดินต่อไป วันนี้ประชาชนฝากความหวัง อยากจะเห็นการเปิดประชุมสภา และมีเลือกประธานสภา เพื่อให้เลือกนายกรัฐมนตรีต่อไป บ้านเมืองจะไม่เกิดสุญญากาศ ถ้ายังเถียงกันแบบนี้ ประชาชนก็จะรู้สึกกังวลว่าสุดท้ายก็กลับมาอีหรอบเดิมคือ ติดกันที่ผลประโยชน์ ซึ่งจะทำให้ความศรัทธาของระบอบประชาธิปไตยถอยไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image