ศปปส.กังวลใจ ปมแก้ 112 รุดยื่นหนังสือ วอน ‘ส.ว.’ อย่ายกมือให้พิธา ลั่น ท่านไม่รู้สึกหรือ โดนถอนหงอกตลอดมา
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 พฤษภาคม ที่รัฐสภา เกียกกาย (ฝั่งวุฒิสภา) ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นำโดย นายอานนท์ กลิ่นแก้ว พร้อมด้วยกลุ่มกระทิงแดงไทยพิทักษ์, ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) และกลุ่มนักรบเลือดสีน้ำเงิน เดินทางไปยื่นหนังสือถึงวุฒิสมาชิก (ส.ว.) เรียกร้องให้ร่วมปกป้อง 3 สถาบันหลักของชาติ โดยมี นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย นำคณะ ศปปส.เดินเท้าเข้าไปยื่นหนังสือหน้าอาคาร โดยมีตัวแทนสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเป็นผู้รับหนังสือเพื่อส่งต่อประธานวุฒิสภา
นายอานนท์กล่าวว่า ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบันและแนวร่วม ร่วมกันลงความเห็นหลังจากเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา พวกเรามีความกังวลใจว่าต่อไปนี้ ส.ว.จะคิดเห็นเป็นเช่นไรบ้างที่พรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล เรากังวลที่พรรคก้าวไกลมีนโยบายจะแก้ไขมาตรา 112 และกลัวว่าสถาบันฯจะสั่นคลอน
“เพราะการแก้ไขของพรรคก้าวไกล ลดโทษผู้ต้องหาลงมาเหมือนกับชาวบ้านธรรมดา ซึ่งประเทศไทยต้องมีสถาบันหลัก มี ม.112 ไว้เป็นกำแพง ป้องกันไม่ให้สถาบันฯถูกจาบจ้วง หมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้าย จนประเทศไทยไม่เหลืออะไรเลย สถาบันฯเป็นเสาหลัก ตลอดเวลาที่ผ่านมา 3-4 ปีที่มีสภาผู้แทนราษฎร เราก็มองเห็น ส.ว.เป็นเสาหลักที่จะปกป้องสถาบันฯอีกคณะหนึ่ง
4 ปีที่ผ่านมาผมฝากไปถึงท่าน ส.ว. โดนถลกหนังหัว หนังหน้า โดนถอนหงอกอยู่ตลอดมา ถ้าอยู่ๆ เปลี่ยนไปลงคะแนน ไปยกมือให้กับคนที่จะมาแก้ไข ม.112 พวกเราก็มีความหนักใจว่า ส.ว.พวกนี้จะคิดเห็นอย่างไรกับสถานการณ์บ้านเมืองและเสาหลัก หรือท่านจะไม่ให้ราคาตัวเองเลย ส.ว.โดนถลกหนังหน้ามา น่าจะรู้สึกว่าตัวเองต้องทำหน้าที่อะไร อย่างน้อยสถาบันฯไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใครทั้งนั้น การยกเลิก หรือแก้ไข ม.112 พวกเราฝ่ายปกป้องสถาบันฯไม่เห็นด้วย” นายอานนท์กล่าว
จากนั้นตัวแทน ศปปส.อ่านแถลงการณ์เรื่อง ขอให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ไม่โหวตให้กับพรรคการเมืองที่จะแก้ไข ม.112 หรือมีความประพฤติพยายามที่จะแก้ไข ม.112 โดยจ่าหน้าจดหมาย เรียน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เนื้อหาความว่า
“เนื่องด้วยประเทศไทยได้เข้าสู่ระบบการเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 และอยู่ระหว่างรอ กกต.ประกาศผลภายใน 60 วันนั้น ศปปส.ติดตามเรื่องนี้มาตลอด จึงมีความกังวลใจเกี่ยวกับนโยบายของพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลว่าจะยกเลิก ม.112 ถึงแม้จะมีการแถลงถึงพรรคที่จะไม่แก้ไข หรือพูดถึง ม.112 ใน MOU ของผู้มีคะแนนสูงสุดที่จะจัดตั้ง แต่ในข้อที่ 1 ฟื้นฟูประชาธิปไตย รวมถึงร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชนให้เร็วที่สุด โดยมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ซึ่งทาง ศปปส.มองเห็นว่าอาจจะมีนัยยะแอบแฝงซ่อนเร้นอยู่หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าพรรคแกนนำที่จะจัดตั้งรัฐบาลมีนโยบายหาเสียงโดยการจะยกเลิก หรือแก้ไข ม.112 เป็นนโยบายหลักในการหาเสียง อีกทั้งยังมีสมาชิกหลายคนในพรรคถูกดำเนินคดี ม.112 ถึงแม้ว่าศาลจะยังไม่ตัดสิน
ศปปส.ไม่ไว้วางใจในกลุ่มนี้ที่มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อสถาบันฯ ให้มาแก้ไข หรือยกเลิก ม.112 ในระบบของรัฐสภาอย่างเด็ดขาด เนื่องด้วยพวกเรา ประชาชนกลุ่มปกป้องสถาบัน ไม่สามารถเข้าไปโหวตในสภาได้ จึงขอให้ ส.ว. 250 คนในสภาพิจารณาแต่งตั้ง/เห็นชอบบุคคลที่สมควรเป็นนายกฯในรัฐสภา โดย ส.ว.ทั้ง 250 คน จะใช้คะแนนเสียงของตัวเองในการโหวตแคนดิเดตนายกฯ
สมาชิกวุฒิสภาเป็นสมาชิกอันทรงเกียรติ ที่มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณากลั่นกรองกฎหมาย ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ถวายคำแนะนำเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ดังนั้น จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่าน ส.ว.อันทรงเกียรติทั้ง 250 ท่าน จะคำนึงถึง 3 สถาบันหลักเป็นสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ให้สมเกียรติของหน้าที่ ส.ว.ต่อไป”
