‘ราเมศ’ ยัน ไร้ดีลลับตั้งรัฐบาลอีกขั้ว อัด ‘โรม’ ปมพาดพิง ‘ชวน’ พูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น 

‘ราเมศ’ ยัน ไร้ดีลลับตั้งรัฐบาลอีกขั้ว อัด ‘โรม’ ปมพาดพิง ‘ชวน’ พูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น 

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 พฤษภาคม ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. แถลงชี้แจงถึงกรณีกระแสข่าวว่ามีการร่วมวางแผน 2 ในการจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรค ปชป. ที่สนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง ซึ่งทำให้พรรคก้าวไกล (ก.ก.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นฝ่ายค้านว่า ยืนยันว่าคนในพรรคไม่มีใครไปดำเนินการเจรจาเพื่อร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองใด

นายราเมศ กล่าวต่อว่า ในส่วนข้อถกเถียงกันในเรื่องประธานสภา ซึ่งมีหลายฝ่ายออกมาพาดพิงนายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภา และประธานรัฐสภานั้น เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะจัดตั้งรัฐบาล แต่พรรค ปชป.ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งหลักการของการเป็นประธานสภา นั้น ตามอำนาจหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญกำหนด ประธานสภา ไม่มีหน้าที่ช่วยเหลือพรรคการเมืองใดผลักดันร่างกฎหมาย และไม่มีอำนาจหน้าที่ไปวินิจฉัย หรือสั่งการนอกเหนือข้อบังคับการประชุมและรัฐธรรมนูญ สิ่งสำคัญคือ ทั้งรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมระบุไว้ว่า ประธานสภา ต้องวางตนเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น ส่วนที่บอกว่าเหตุผลที่ต้องการให้พรรคของตนได้ตำแหน่งประธานสภา ก็เป็นเรื่องของพรรคคุณ แต่หลักการที่ถูกต้องก็ควรถูกนำมาพูดด้วย

นายราเมศ ยังกล่าวถึงการทำหน้าที่ของนายชวนอีกว่า นายชวน ทำหน้าที่ประธานสภา ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายยึดหลักความเป็นกลางในที่ประชุมสภา การจะกล่าวหาว่านายชวนไม่รวมผลักดันกฎหมายแต่ละฉบับนั้นไม่ถูกต้อง เพราะการยกเลิกมาตรา 112 หรือการยกเลิกอัตราโทษฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานและศาล ทั้งหมดเหล่านั้นขัดแย้งต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ประธานสภา จึงเห็นแย้งในที่ประชุม ซึ่งการผลักดันกฎหมายโดยไม่อยู่ในหลักเกณฑ์เป็นสิ่งที่ประธานสภา ทำแล้วจะเกิดปัญหา

Advertisement

นายราเมศ กล่าวถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านในขณะนั้น ขอให้มีการอภิปรายเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไม่ถวายสัตย์ฯ ซึ่งกรณีดังกล่าวก็มีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญออกมาแล้ว โดย ชวน ในฐานะประธานสภา จึงขอให้ยุติการอภิปราย แต่ในท้ายที่สุด ชวน ก็ได้หารือหลายฝ่าย และบอกว่า เราต้องยึดหลักความถูกต้อง เมื่อเป็นคคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ย่อมไม่มีผลผูกพันกับองค์กรอื่น ดังนั้น ฝ่ายค้านจึงสามารถอภิปรายได้ จากเหตุการณ์นั้นจึงทำให้เกิดการขัดข้องหมองใจจากรัฐบาลพอสมควร

นายราเมศ ยังกล่าว ถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรค ก.ก. แถลงว่านายชวน ไม่ให้ความสำคัญกับการผลักดันกฎหมายภาคประชาชน เป็นสิ่งที่ผิดเพี้ยน เพราะมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าประธานสภา ได้ทำตามขั้นตอน และมีกฎหมายภาคประชาชนเข้าสู่การพิจารณาของสภา หลายฉบับ นั่นคือ พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาล และร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกฎหมายฉบับอื่นๆ และไปไกลถึงขนาดที่ว่าร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งนายชวนได้มีบัญชาให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจัดที่อำนวยความสะดวก และให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกับประชาชนในการร่างกฎหมาย ดังนั้นการพูดเอาดีใส่ตัว แต่เอาชั่วใส่คนอื่น ก็เป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับความรูัสึกของประชาชนที่เห็นการทำงานของประธานสภา มาโดยตลอด

ในส่วนที่โฆษกพรรค ก.ก.บอกว่า อยากให้สภา โปร่งใส นั่นก็เป็นเรื่องที่ดี แต่สมัยนายชวน ก็ไม่ได้ละเลยเรื่องเหล่านี้ เพราะท่านริเริ่มโครงการให้มีบ้านเมืองสุจริต และการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน รวมถึงสิ่งที่สำคัญคือ การดำเนินการทุกข์ร้อนของประชาชน และข้อหารือของสมาชิกสภา ที่มีกระบวนการผ่านไปยังรัฐบาลก็ได้รับฟังปัญหา และได้รับการแก้ไขตามลำดับ

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image