ชูวิทย์ ได้กลิ่นไหม้ ชี้พรรคน้องรุ่ง ลุงๆหายหน้า พรรคพี่ริษยา จะสกัดขาก็ติด ‘เสียงสังคม’

ชูวิทย์ ได้กลิ่นไหม้ ชี้พรรคน้องรุ่ง ลุงๆหายหน้า พรรคพี่ริษยา จะสกัดขาก็ติด ‘เสียงสังคม’

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ท่ามกลางกระแสการเมืองที่การจัดตั้งรัฐบาล ภายใต้การนำของพรรคก้าวไกล จับมือกับอีก 8 พรรคร่วมรัฐบาล ดูเหมือนจะทุกลักทุเลพอสมควร

กับเรื่องนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวไว้ว่า

“ยุคทองของพรรคน้อง เมื่อคนเบื่อลุง คะแนนไม่ไปพรรคพี่ก็มาพรรคน้อง
.
สองพรรคคล้องแขนกันขึ้นแท่นรับเหรียญอันดับหนึ่ง อันดับสอง
.
ชื่นชมบรรยากาศประชาธิปไตยเบ่งบาน พวกลุงๆ หายหน้าออกจากข่าวเป็นคนหายตัว
.
รวมสองพรรคพี่น้องเกินครึ่งสภา เจรจาพาทีต่อหน้าดูราบรื่น ภาพสวยงามร่วมพรรคอื่นประกอบฉากชูมือสมานฉันท์
.
แต่ “ความขื่นขม” ตกอยู่กับพรรคพี่ที่ชื่อ “เพื่อไทย”
.
บ้านใหญ่ล้ม หวังจะได้ถึง 310 กลับผิดคาด ลดลงมา “ช็อคคาตา” ไม่ถึงครึ่ง รูดมาเหลือแค่ 140
.
คะแนนกลับเทให้ “พรรคน้อง ก้าวไกล” ที่ทำอะไรดูถูกใจไปหมด
.
ยิ่งจบชัด เชื่อใจได้ว่า “มีลุงไม่มีเรา” เอาแต้มไปเลยเกินกว่าใครคาดคิด
.
ดีดไปถึง 150 ซุ้มเล็ก บ้านใหญ่ ม้วนเสื่อกลับบ้านเก่ากันเป็นทิวแถว
.
ในใจน้องย่อม “ระริกระรี้” กับชัยชนะที่เกินเกม “ลงทุนน้อย แต่ได้กำไรมาก”
.
ในขณะเดียวกันพรรคพี่ย่อมรู้สึก “ริษยา” พรรคน้อง ของธรรมดากิเลสมารการเมือง
.
พี่จะเดินหน้าก็ติดน้อง จะถอยหลังก็ติดน้องอีก ค้ำคอพี่เพราะสังคมเชียร์น้องอยู่
.
หากทิ้งไว้วันหน้าไม่มี “ลุง” ปล่อยให้เติบใหญ่น้องจะแซงพี่ ไม่มีทางเป็นพรรคอื่น
.
ทางใดสกัดได้ต้องทำ เพราะน้องยังประสบการณ์น้อยในวงเจรจา คนโตไม่ทันพรรค
.
แต่พรรคพี่คนแก่ล้นพรรค กลายเป็นเดินตามอนาคตพรรคประชาธิปัตย์ ที่นับวันถอยหลังกระแสหมดก๊อก
.
เที่ยวหน้าหากปล่อยให้น้องโต หมดทักษิณ จบอนาคตเพื่อไทย
.
แต่น้องฆ่าไม่ตาย ขายไม่ขาด รุ่นใหม่ค่อยๆ โตเข้ามาทดแทนรุ่นเก่าที่ล้มหายตายจากสาบสูญทางการเมือง
.
ลูกหลานก็จมอยู่บนทรัพย์สมบัติอู้ฟู่ล้นเหลือของรุ่นพ่อแม่
.
ขณะที่พรรคน้องต้องดิ้นรนอวดผลงานเพื่อก้าวให้ไกลต่อไปบนถนนสายการเมือง
.
พรรคพี่แสงตะวันกำลังดับลง
.
พรรคน้องแสงอาทิตย์กำลังเพิ่งฉายแสงขึ้น
.
วันนี้แค่ตั้งไข่ ฟอร์มทีมรัฐบาลไม่ถึงสัปดาห์ก็ตั้งท่ายุ่งเหยิงซัดกันนัว
.
พี่น้องคนละท้อง โตแล้วมาเจอกันโดยบังเอิญ
.
อุดมการณ์คนละหน่อ ระหว่างคนสังขารเริ่มร่วงโรยหมดยุค กับคนหนุ่มสาวไฟแรงทันยุคสมัย ถูกจับมาอยู่ชายคาบ้านหลังเดียวกัน
.
หมดเรื่อง “ประธานสภา” รับประกันว่ามีเรื่องอื่นอีก
.
เพราะเป็น “ปลาคนละน้ำ เคมีคนละสูตร”
.
จับเอามาผสมกันก็ได้แค่ชั่วครั้งชั่วคราว เดี๋ยวได้เห็นอาการเค้าลางของ “ไฟ” ที่คนพี่กำลังมอด แต่คนน้องกำลังติด
.
ป่านนี้บรรดาลุงๆ เขา “สุมไฟ” รอวันกลับ
.
กลิ่นความเจริญจางหาย กลายเป็น “กลิ่นไหม้” มาแทน”

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image