คนเพชรฯ ทวงลงนามยุคบิ๊กตู่ ให้ ‘ชาวบางกลอย’ กลับบ้านยัง? คาใจระบบ สธ.ได้มาตรฐาน ปม ‘กิ๊ป ต้นน้ำเพชร’

คนเพชรเพื่อมนุษยธรรม ทวงลงนาม? ยุคบิ๊กตู่ ห่วงชะตากรรม ‘ชาวบางกลอย’ ถูกผลักไสไม่ให้กลับใจแผ่นดิน คาใจระบบ สธ.ได้มาตรฐาน ปม ‘กิ๊ป ต้นน้ำเพชร’

สืบเนื่องกรณี การเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกของ น.ส.กิ๊ป ต้นน้ำเพชร ผู้นำสตรีชาวกะเหรี่ยงบางกลอย จ.เพชรบุรี เมื่อ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา จากการปฏิบัติงานที่บกพร่องของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแก่งกระจาน สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงระบบการจัดการด้านสาธารณสุข ในการรับการรักษาพยาบาลกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย โดยเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม เครือข่ายประชาชนพิทักษ์สิทธิเสรีภาพและความเป็นธรรม เดินทางไปยื่นข้อเรียกร้อง ให้กระทรวงสาธารณสุข รับผิดชอบ โดยมองว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจากอคติที่เห็นคนไม่เท่ากัน เหยียดกลุ่มชาติพันธุ์นั้น

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม กลุ่มคนเพชรเพื่อมนุษยธรรม นำโดย นายสัมฤทธิ์ ชิณวงษ์ ผู้ประสานงานกลุ่ม เผยแพร่แถลงการณ์ กรณีพี่น้องชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบางกลอย เนื้อหาความว่า

สืบเนื่องจากพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ระบุว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดยึดถือหรือครอบครองที่ดิน รวมถึงการก่อสร้าง แผ้วถาง ถางป่า …” ต่อมาในปี 2524 ได้มีการประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานขึ้น เป็นครั้งแรกโดยการประกาศครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาให้กับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบางกลอย เนื่องจากการกำหนดเขตอุทยานฯ ประกาศทับที่อยู่อาศัยของชาวกะเหรี่ยงบางกลอยซึ่งอยู่อาศัยมาก่อน เป็นผลให้พี่น้องกะเหรี่ยงบางกลอยที่อยู่อาศัย ณ บางกลอยบน (ตามหลักฐานของกรมการปกครอง คือ หมู่ 7 ต.สองพี่น้อง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ในปี 2514 ซึ่งการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จัดทำขึ้นภายหลังในปี 2524) โดยถูกแยกออกจาก ต.สองพี่น้อง อ.ท่ายาง มาอยู่ในเขต กิ่ง อ.แก่งกระจาน ในปี 2536 ส่วนบ้านใจแผ่นดิน บ้านของปู่คออี้ อยู่ห่างขึ้นไป โดยมีหลักฐานคือภาพถ่ายทางอากาศปี 2515 การประกาศจัดตั้งเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในปี 2524 จึงเป็นสาเหตุแห่งการผลักไสให้พี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์กลายเป็นผู้บุกรุกป่าตามกฎหมายอุทยานฯไปโดยปริยาย

ADVERTISMENT

ในปี 2539 เจ้าหน้าที่อุทยานจึงเริ่มมีการเจรจาให้พี่น้องกะเหรี่ยงบางกลอยลงมาอยู่ ณ บริเวณหมู่บ้านบางกลอยล่าง ฝั่งซ้ายของแม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งปัจจุบันคือ หมู่ 2 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และรัฐจัดสรรที่ทำกินให้ แต่การดำเนินงานจากรัฐไม่เป็นไปตามข้อเสนอ พื้นที่จัดสรรไม่เพียงพอและผืนดินไม่สามารถเพาะปลูกได้ ทำให้พี่น้องบางกลอยบางส่วนต่างทยอยกลับขึ้นไปสู่บ้านเกิดคือบางกลอยบนอีกครั้ง

ปี 2554 เจ้าหน้าที่อุทยานๆปฏิบัติการยุทธการตะนาวศรี จับกุมและเผาบ้านที่อยู่อาศัย ผลักดันให้กลับลงมาอยู่ที่บ้านบางกลอยล่าง ดังที่เป็นข่าวรับรู้ทั่วไป แต่ในเวลาต่อมาพี่น้องชาวบางกลอยบางส่วนที่ไม่สามารถทำมาหากินในพื้นที่ได้จึงทยอยกลับขึ้นไปยังบางกลอยบนเช่นเดิม

ADVERTISMENT

ในปี 2561 แม้ว่าศาลปกครองสูงสุดพิพากษาและยอมรับว่าบ้านบางกลอยบนและบ้านใจแผ่นดินถือเป็นชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง (ปกากะญอ) ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แต่ศาลปกครองสูงสุดก็ไม่อาจจะพิพากษาให้ชาวกะเหรี่ยงดั้งเดิมกลับไปอยู่บ้านบางกลอยบนและบ้านใจแผ่นดินได้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านกฎหมาย เพราะพื้นที่พิพาทดังกล่าวถูกประกาศให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานไปแล้ว

ช่วงวันที่ 22-24 ก.พ. เจ้าหน้าที่รัฐเปิดปฏิบัติการ ยุทธการพิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชร ผลักดันชาวบางกลอยลงมาจากบางกลอยบนอีกครั้ง และจับกุมดำเนินคดีชาวบางกลอย จำนวน 29 ราย 7 ข้อหาเกี่ยวกับการบุกรุกป่าตาม 3 กฎหมายคุ้มครองป่าอนุรักษ์ ได้แก่ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2562 พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประกันตัวสู้คดี

ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน กำหนดไว้ว่ามนุษย์ทุกคนย่อมมีอิสระและเสมอภาคกันในศักดิ์ศรีและพึงปฏิบัติต่อกันด้วยจิตวิญญาณแห่งภราดรภาพ มีสิทธิและอิสรภาพโดยปราศจากการแบ่งแยก เชื้อชาติ ผิว เพศ ภาษา ศาสนาและพื้นเพทางชาติหรือสังคม… อันเป็นแนวทางสากลของนานาอารยประเทศ สอดคล้องกับแนวทางการปฏิบัติต่อพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบางกลอย ดังมติ ครม.เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2553 ว่าด้วยแนวนโยบายและหลักปฏิบัติในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง และหลักสิทธิชุมชนในการมีส่วนร่วมจัดการและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการลงนามเห็นชอบตามข้อเสนอแนวทางแก้ไข เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้กลุ่มชาวบ้านบางกลอยที่ประสงค์จะกลับไปดำรงวิถีชีวิตด้วยระบบเกษตรแบบไร่หมุนเวียนในพื้นที่บางกลอยบน (พื้นที่ดั้งเดิมที่อยู่อาศัย) จำนวน 150 คน โดยใช้แนวทางพัฒนาพื้นที่ตันแบบส่งเสริมเกษตรแบบไร่หมุนเวียนตามหลักการคุ้มครองสิทธิทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ ผ่านการจัดโครงการศึกษาเชิงทดลองแบบมีส่วนร่วม

ดังนั้น กลุ่มคนเพชรเพื่อมนุษยธรรมเป็นกลุ่มคนในพื้นราบของจังหวัดเพชรบุรี ห่วงใยในชะตากรรมและการถูกผลักไสพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์บางกลอยให้ละทิ้งบ้านเกิด ถูกกระทำเหมือนไม่ใช่มนุษย์ ทั้งจากกลไกของรัฐและมายาคติมากมายในสังคมอันส่งผลต่อความเกลียดชัง เหยียดหยาม จึงขอประกาศท่าทีและสนับสนุนแนวทางแห่งมนุษยธรรม ดังนี้

1.สนับสนุนการตัดสินใจของรัฐทางนโยบาย ผ่านการลงนามเมื่อวันที่ 21 เม.ย.2566 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยให้กลุ่มชาวบ้านบางกลอยกลับไปดำรงวิถีชีวิตด้วยระบบเกษตรแบบไร่หมุนเวียนในพื้นที่บางกลอยบน อันเป็นพื้นที่ดั้งเดิมของตนตามประสงค์ จำนวน 150 คน ผ่านกลไกจากตัวแทน 3 ฝ่าย

2.ขอตั้งข้อสังเกตถึงระบบการจัดการด้านสาธารณสุข ในการรับการรักษาพยาบาลชาวกะเหรี่ยงบางกลอย “กิ๊ป ต้นน้ำเพชร” ในระหว่างวันที่ 21-22 พ.ค.ที่ผ่านมา ณ รพ.แก่งกระจาน จ.เพรรบุรี ว่าดำเนินไปตามมาตรฐาน ด้านสาธารณสุขหรือไม่ อย่างไร

ด้วยความห่วงใยแห่งมนุษยธรรม

นายสัมฤทธิ์ ชิณวงษ์ ผู้ประสานงานกลุ่มคนเพชรเพื่อมนุษยธรรม
วันพุธ ที่ 31 พฤษภาคม 2566

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image