‘พิธา’ มั่นใจ รีดไขมันกองทัพ มีงบผลักดัน ‘รัฐสวัสดิการ’ ลั่น เบื้องหลังคือ ‘ประชาชน’ ไม่ใช่อเมริกา
เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมรายการ คุยนอกจอ ของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา
ตอนหนึ่ง พิธาตอบกรณีการยื่นคำร้องให้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เร่งดำเนินการตรวจสอบ เนื่องจากการมีชื่อถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด จำนวนกว่า 42,000 หุ้นนั้น จะเป็นอุปสรรคกับการขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ว่า ตนมั่นใจในหลักฐาน และหลักกฎหมาย ถ้ามีตัดสินอย่างยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียมในการตัดสิน
ทั้งนี้ กกต.ยังไม่มีการติดต่อมาที่พรรคก้าวไกลเลย และยังไม่เห็นคำร้องว่าร้องอย่างเป็นทางการว่าร้องเรื่องอะไร จึงไม่สามารถให้รายละเอียดได้ ทั้งนี้ตนพร้อมจะชี้แจงทุกข้อ ได้ศึกษาเตรียมตัว เตรียมข้อเท็จจริงไว้หมดแล้ว รอเข้าสู่กระบวนการ
ส่วนหวั่นไหวหรือไม่ ที่มีคนบอกว่าเดี๋ยวจะต้องมีเลือกตั้งซ่อมทั้งประเทศ พิธากล่าวว่า จะหวั่นไหว ไม่หวั่นไหว ต้องรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ซึ่งตนได้ให้ทีมกฎหมายเช็กแล้ว ดังนั้น ก็ไม่ต้องตอบโต้อะไร
ส่วนทิศทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมา การวินิจฉัยอะไรต่างๆ ที่อาจจะออกมาอีกแบบหนึ่ง พิธาตอบว่า ผมมั่นใจ ไม่หวั่นไหว ถ้าตัดสินอย่างยุติธรรม
ที่ไม่กังวลเพราะ มีการตั้งคณะรับทางการเมือง ดูฉากทัศน์ทางการเมือง ดูเรื่องหุ้น กกต. เช่น ศึกษาข้อมูลว่าถ้ารับรอง ส.ส.เร็ว เกิดอะไรขึ้น ถ้ารับรองช้าที่สุดเกิดอะไรขึ้น และการเมืองแต่ละพื้นที่เป็นอย่างไร
ส่วนประเด็นให้เบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาท และดูแลรัฐสวัสดิการได้ทันทีหรือไม่? พิธากล่าวว่า คิดว่าถ้าเรารีดไขมันจากกองทัพ จากงบกลาง ได้รายได้จากวิสาหกิจ รายได้จะเพียงพอที่จะมีงบผลักดันเรื่องรัฐสวัสดิการได้ ซึ่งตนตั้งใจจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน และจะทำให้ได้เยอะมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ส่วนที่มาพร้อมความคาดหวังสูง มาพร้อมกองเชียร์ ที่วันหนึ่งอาจจะมีลงก็ได้ มีผลกระทบอะไรหรือไม่ พิธากล่าวว่า ขอบคุณทุกกำลังใจที่สนับสนุน ถ้ามีอะไรสามารถติชมได้ เราต้องยอมรับและฟังเสียงพี่น้องประชาชน
ถ้าวันหนึ่งมีบางเรื่องที่ตัดสินใจ โดยมีกระแสไม่เห็นด้วย พิธากล่าวว่า กระแสบางครั้งมีเหตุผลมากกว่าพรรคเสียอีก ดังนั้น การตัดสินใจอะไรก็ตาม การสื่อสารสำคัญมาก ถ้ามีเหตุมีผล มีความสำคัญ สามารถบริหารความคาดหวังของประชาชนได้
ส่วนที่ประเด็นอเมริกาอยู่เบื้องหลังหรือไม่ พิธายืนยันว่า อเมริกาไม่ได้อยู่เบื้องหลัง ประชาชนคนไทยอยู่เบื้องหลังในการทำงาน เรื่องการต่างประเทศ ต้องมีการหาสมดุล โดยยึดหลักการและประโยชน์ของชาติของเรา และชาติของเขาเป็นที่ตั้ง
ส่วนที่อเมริกาอยู่เบื้องหลังเข้ามาแทรกแซงการเมืองไทยนั้น พิธากล่าวว่า ในอดีตที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องอิทธิพลของจีนเทามาจำนวนมาก อาจจะรู้สึกว่าเราเอียงไปทางจีนเยอะ ดังนั้นในเรื่องของสมดุลเราต้องรักษา
“ลิ้มเจริญรัตน์ ผมก็แซ่ลิ้ม ดังนั้นต้องดูแลความใกล้ชิดกับจีน และต้องหาสมดุลกับอเมริกาเช่นกัน ทั้งนี้ไม่มีการมาครอบงำ ไม่มีใครอยู่เบื้องหลังทั้งนั้น แต่เราต้องหาสมดุลภายการต่างประเทศระหว่างประเทศเราและเขา” พิธาระบุ
