“โฟล์ก” อัคร ทองใจสด วัย 26 ปี ว่าที่ ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็น 1 ใน 6 ว่าที่ ส.ส.เพชรบูรณ์ ของ พปชร.ที่กวาดยกจังหวัดทั้ง 6 เขต
เป็นหลานรักปู่ เอี่ยม ทองใจสด อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ 13 สมัย และลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ อัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ กับ จินตนา ทองใจสด นายกเทศมนตรีตำบลพุเตย อ.วิเชียรบุรี
โปรไฟล์ไม่ธรรมดา จบปริญญาตรี เกียรตินิยม จากวิทยาลัยนานาชาติมหิดล สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แล้วยังไปต่อปริญญาโทที่ Kings College London สาขาเศรษฐศาสตร์การเมือง คว้าเกียรตินิยมมาอีกใบ
ก่อนจะเข้าป้ายเป็นว่าที่ ส.ส.เพชรบูรณ์ หนุ่มโฟล์กเรียนรู้งานการเมืองมาบ้าง ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการกิจการสภา สภาผู้แทนราษฎร และที่ปรึกษานายก อบจ.เพชรบูรณ์ ก่อนก้าวเข้าสู่ถนนการเมืองระดับชาติเต็มตัว และได้รับเลือกตั้งเป็นว่าที่ ส.ส.ครั้งแรก
หนุ่มโฟล์กสะท้อนมุมมองทิศทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมาว่า เทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองมากขึ้น ส่งผลต่อการตัดสินใจของประชาชน ฉะนั้นบริบทของนักการเมืองในภายภาคหน้า ไม่ใช่แค่ลงพื้นที่ทำงานเพียงอย่างเดียว แต่การพัฒนาพื้นที่และโครงการต่างๆ ต้องมีการประชาสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น
ส่วนเสียงสะท้อนเรื่องสืบทอดการเมืองของตระกูล “หนุ่มโฟล์ก” บอกว่า ผมไม่รู้สึกกดดันอะไร ในทางตรงกันข้ามเป็นความท้าทายของผม ที่ต้องทำงานในบทบาทที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนชาวเพชรบูรณ์ให้มากขึ้น โดยเฉพาะภาระในการคลายความทุกข์ร้อนจากปัญหาต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะเป็นแรงผลักดันผมสร้างความเชื่อมั่นให้กับพ่อแม่พี่น้อง
อย่างไรก็ตาม ผมไม่คิดว่าเป็นการผูกขาดทางการเมือง ไม่ว่าคุณจะมาจากตระกูลไหนหรือพรรคการเมืองใดก็ตาม หากสร้างผลงานและสามารถแก้ไขปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้ ก็ย่อมได้รับการยอมรับจากประชาชนเช่นเดียวกันครับ
ผมอาจจะมีโอกาสที่ดีกว่าหลายท่าน เนื่องจากครอบครัวสร้างพื้นฐานมาให้ค่อนข้างแน่น แต่การรับช่วงต่อนั้นไม่ง่าย ไม่ใช่แค่ลงสมัครแล้วจะเข้าสู่ถนนเส้นทางนี้ได้เลย หรืออาจจะได้ แต่ก็อาจไม่ยั่งยืน ฉะนั้นในมุมมองของผม งานที่หนักและยากคือการรักษามาตรฐาน หรือทำให้มาตรฐานดีขึ้นกว่าเดิม
ตลอด 3 ปีกว่าที่ผมมีประสบการณ์ในงานการเมือง ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการและที่ปรึกษานายก อบจ.เพชรบูรณ์ ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ได้รู้จักผู้คนและลงไปสัมผัสปัญหาจริงๆ จนทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด
“ที่อยากจะทำให้กับบ้านเกิดคือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้อยากพัฒนาการเกษตรเชิงดิจิทัล เนื่องจากคนในพื้นที่กว่าครึ่งทำการเกษตร อีกหนึ่งเป้าหมายคือการเตรียมความพร้อมรองรับการลงทุนทั้งด้านอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และด้านอื่นๆ เชื่อว่าเทคโนโลยีจะช่วยให้เพชรบูรณ์มีความเจริญก้าวหน้าและมีความโปร่งใสมากขึ้น” ว่าที่ ส.ส.หนุ่มโฟล์กตั้งความหวังไว้
