ลุงๆ ไม่เอา ‘รบ.แห่งชาติ’ ลั่น แล้วจะเลือกตั้งเพื่อ..โวยรอนายกฯใหม่นานเกิน

ลุงๆ ไม่เอา ‘รบ.แห่งชาติ’ ลั่น แล้วจะเลือกตั้งเพื่อ..โวยรอนายกฯใหม่นานเกิน

ยังอลหม่าน สำหรับการเมืองไทยในช่วงเวลาที่ประชาชนทุกฝักฝ่ายพร้อมใจลุ้นระทึกทั้งประเทศ

‘มติชนออนไลน์’ ลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้านย่านประชาชื่น เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

สอบถามความในใจต่อสถานการณ์ในวันนี้

Advertisement

สำเริศ ศรีษะ วินมอเตอร์ไซค์ วัย 57 ปี บอกว่า รอนายกฯคนใหม่นานเกินไป กว่าจะได้รับรอง ส.ส. และโหวตเลือกนายกฯ ประชาชนที่เลือกตั้งมาเขารออยู่ ตอนนี้รายได้แย่ จาก 500-600 บาท เหลือ 200 กว่าบาท แต่ถ้าได้ใครที่เก่งๆ เข้ามาพัฒนาวินมอเตอร์ไซค์คงจะดี จะได้เลี้ยงลูกหลานได้บ้าง ไม่เช่นนั้นมันไม่พอรับประทาน ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าวิน ค่ารถ

“ถ้าได้คุณพิธามาเป็นนายกฯจะมีรายได้ดี ผมคิดว่าเป็นเช่นนั้น ดูจากทรงแล้วเขาก็ดี ดูมีบุญบารมี โหงวเฮ้งเขามันได้” ลุงสำเริศ กล่าว

เมื่อถามว่าอยากให้ใครได้เก้าอี้ประธานสภา ลุงสำเริศ บอกว่า อยากให้ ‘พรรคเพื่อไทย’ เพราะเขามีรากฐานที่แน่น ก้าวไกลเป็นวัยรุ่นเพิ่งขึ้นมาใหม่ เรื่องอายุ ช่วงวัยกลางคนกำลังดี

Advertisement

“ก้าวไกล เพื่อไทยก็ดีทั้งคู่ แต่ให้เพื่อไทยจะดีมากกว่า สำหรับประธานสภา จริงๆแล้ว รักทั้งหมด จะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือประวิตร วงษ์สุวรรณ เขาเองก็เป็นคนไทยเหมือนกัน ส่วนดีก็มี บางสิ่งบางอย่างต้องฟังกันทุกด้าน มาช่วยกันประเทศชาติจะได้ดีขึ้น” ลุงสำเริศฝากไว้ให้คิด

ด้าน ‘ลุงต่อ’ เจ้าของร้านขายเครื่องดื่มรถเข็น วัย 47 ปี อยากให้คนจากพรรคเพื่อไทยได้เป็นประธานสภา เพราะควรเป็นคนมีวุฒิภาวะ อายุและประสบการณ์มีส่วน เพราะเป็นการบริหารประเทศไม่ใช่บริหารบริษัทใดบริษัทหนึ่ง วัยรุ่นอาจตัดสินใจเร็วไป มันต้องมีผู้ใหญ่คอยค้าน

ส่วนในกรณีที่มีผู้เสนอ ‘รัฐบาลแห่งชาติ’ ลุงต่อกล่าวว่า ไม่เห็นด้วย เพราะอยากได้เสียงประชาชนที่เลือกมาให้บริหารประเทศ

“แล้วเราจะเลือกตั้งไปทำไม คุณก็จัดตั้งกันเองไม่ต้องเปลืองงบประมาณ ส่วนการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีมองว่าใช้เวลานานไป เพราะการบริหารประเทศมันไม่ต้องรอ ต้องเดินหน้าไปเรื่อยๆ ไม่ใช่หยุดชะงักแบบนี้

“มันหยุดมาแล้วตั้ง 8 ปี จะให้หยุดอีกเหรอ” ลุงต่อย้ำ

ลุงต่อเผยว่า สถานการณ์ค้าขายของร้านตอนนี้ ก็พอขายได้แต่ว่าของแพง ขอฝากรัฐบาลใหม่ ทำอย่างไรจะให้ประชาชนลดค่าครองชีพได้ เพราะว่า ของทุกอย่างแพงหมด ทุกพรรคก็จะพูดถึงแต่เรื่องขึ้นค่าแรง แต่ไม่พูดถึงการคุมราคาสินค้า สินค้ามันขึ้นทุกวันแล้วเมื่อไหร่มันจะหยุด ตอนนี้ลอยตัวเรื่องน้ำมันแล้วราคามันจะขึ้นอีกไหม ในเมื่อเราขายแพงไม่ได้ เพราะค่าแรงยังต่ำอยู่ พอขายแพงขึ้น ลูกค้าก็ไม่มีต้นทุนมาซื้อ เพราะเงินมันน้อยลงโดยธรรมชาติ ต้นทุนมันสูง แต่เงินเดือนเท่าเดิม ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นอยู่แล้ว อยากให้ทุกพรรคมองตรงนี้บ้างว่าราคาสินค้าทำไมมันสูงขึ้นทุกวันๆ

“เรายังไม่เห็นประสบการณ์การทำงานของพรรคก้าวไกล อย่างท่านชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เราเคยเห็นท่านบริหารกระทรวงคมนาคมมาแล้ว พอเห็นผลงานบ้าง เราต้องดูลงไปว่าถ้า 4 ปี เขาทำไม่ดีเราก็เลือกพรรคใหม่แค่นั้นเอง ประชาชนก็ไม่ต้องมาประท้วง” ลุงต่อกล่าว

ขณะที่ สมเดช ชมพู่เพชร อายุ 60 ปี อาชีพจำหน่ายยางรถยนต์ เป็นอีกรายที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดรัฐบาลแห่งชาติ เพราะประชาชนออกไปเลือกตั้งมาแล้ว ส่วนในกรณีของประธานสภา ลุงสมเดช มองว่า พรรคไหนก็ได้ระหว่าง ระหว่างเพื่อไทย กับ พรรคก้าวไกล

“ธุรกิจยางยนต์ตอนนี้ก็ยังแย่อยู่เช่นเคย ถ้าพรรคก้าวไกลได้จัดตั้งรัฐบาลจริงที่มีคนรุ่นใหม่ ความคิดทำอะไรก็จะเร็วขึ้นก็น่าจะดี ในอนาคต น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ในทางที่ดีขึ้น คนส่วนมากก็กังวลไปเองคิดไปเองแค่นั้น ว่าจะไม่ดีหรือเสียหาย เขายังไม่ทำงานเลย จริงๆ อยากให้เขาทำงานไปก่อน ถ้าไม่ดีคนเลือกมาเขาก็ไม่เอาคุณอยู่แล้ว” ลุงสมเดชกล่าว

ส่วนช่วงเวลาก่อนการรับรอง ส.ส. และโหวตเลือกนายกฯ ลุงสมเดชมองว่า นานเกินไป แต่ใจมันชินเสียแล้ว

“เขาก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไง ชินแล้ว ชินมาตั้งนานแล้วที่เป็นแบบนี้ ส่วนประธานสภา ถ้าจะให้ดี อยากให้คนที่อาวุโสได้ตำแหน่งจะดีกว่า” ลุงสมเดชปิดท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image