พิธา-ชัชชาติ ลั่นระฆัง เดินทางไกลก้าวแรก จุดหมายเดียวกัน ‘ทะลวงข้อจำกัด’ ดัน พ.ร.บ.กทม.เลือกตั้งผู้ว่าฯเขต
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ห้องประชุมรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม.1 (เสาชิงช้า) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเข้าพบผู้บริหาร กทม. ของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมว่าที่ ส.ส.กรุงเทพฯ และตัวแทน สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรค ก.ก. เข้าพบ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนประเด็นและแนวทางการทำงานร่วมกันเวลา 15.05 น. บรรยากาศภายหลังการประชุม นายพิธา ร่วมถ่ายภาพหมู่กับคณะผู้บริหาร กทม. ก่อนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงประเด็นที่หารือกันในวันนี้ นายชัชชาติกล่าวว่า ทาง กทม. ยินดีต้อนรับท่านพิธา และว่าที่ ส.ส.ก้าวไกล ของ กทม.จำนวน 32 ท่าน แต่มา 29 ท่าน และทีมงานที่เข้มแข็งของก้าวไกล รวมถึง ส.ก.อีก 3 ท่านที่มาร่วม
“ผมว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี จริงๆ แล้ว การขับเคลื่อนหลายๆ อย่างไปข้างหน้า ความร่วมมือคือสิ่งสำคัญ การได้มาพบปะหารือตั้งแต่เริ่มทำให้มีความเข้าใจร่วมกัน และได้ร่วมเดินกันไป ไม่ว่าบทบาทใดก็ตามในอนาคต” ขอบคุณท่านพิธาที่กรุณาให้ความคิดเห็น ดีหลายอย่างเลย จากที่ว่าที่ ส.ส.ลบพื้นที่ มีฟีดแบ๊กจากประชาชนหลายด้าน รวมทั้งการเห็นปัญหา การมีเทคโนโลยีในหน่วยงานที่เข้มแข็ง จะทำให้เราหาคำตอบที่ดีให้กับเมืองได้ เชื่อว่าวันนี้ เป็นก้าวแรกของการเดินทางไกล
“เดินไกลๆ เดินทางไกล จุดมุ่งหมายเดียวกัน กทม.กับพรรคก้าวไกล คือทำประโยชน์ให้กับประชาชนสูงสุด” นายชัชชาติกล่าว
“เชื่อว่าวันนี้จะเป็นก้าวแรกของการเดินทางไกล
จุดหมายเดียวกัน ของ กทม. และพรรคก้าวไกล คือทำประโยชน์ให้กับประชาชนสูงสุด”ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวหลังจบการประชุมหารือกับพรรคก้าวไกล นำโดย #พิธาลิ้มเจริญรัตน์ pic.twitter.com/yRTIXsO8uw
— Matichon Online (@MatichonOnline) June 6, 2023
ด้านนายพิธากล่าวว่า ต้องขอขอบคุณท่านผู้ว่าฯ ที่กรุณาโฆษณาให้ก้าวไกล จะก้าวให้ไกล ต้องก้าวด้วยกัน เป็นสิ่งที่ก้าวไกลคิดมาตลอด คือการทำงานอย่างไร้รอยต่อ
ปัญหาหลายๆ เรื่องใน กทม.ไม่ว่าปัญหาเก่าที่คาราคาซังมานาน หรือปัญหาใหม่ที่เป็นความท้าทายใหม่ๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ถ้าสามารถแก้ไขได้อย่างไร้รอยต่อ ตั้งแต่ระดับรัฐบาล นายกฯ มาที่สภาผู้แทนราษฎร มาที่ผู้ว่าฯ กทม. มาที่ สภา กทม. ผมคิดว่าการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดทางด้านงบประมาณ ด้านกฎหมาย หรือแม้แต่การประสานงานเล็กๆ น้อย จะสามารถทำให้ กทม. ทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น”
นายพิธากล่าว
“วันนี้ก็เลยมารับข้อเสนอจากผู้ว่าฯ ทั้งหมด 21 ข้อ ที่ท่านทำคนเดียวไม่ได้ ท่านต้องประสานงานกับเรา เพื่อให้เรา ไม่ว่า ส.ส. 32 คน ที่อยู่ใน กทม.ก็ดี ในการผ่านกฎหมาย ให้ท่านผู้ว่าทำงานได้ ยกตัวอย่างการแก้ไขปัญหา PM2.5 ใน กทม. ส่วนใหญ่มาจากการเดินทางของรถ ถ้าต่ำกว่า 4 ล้อ กทม. มีอำนาจกำหนด แต่ถ้ามากกว่า 4 ล้อ เป็นอำนาจของกระทรวงอื่น เป็นต้น ว่าการทำงานแบบไร้รอยต่อ (Seamless Bangkok) จะสามารถแก้ปัญหาใน กทม.ได้ขนาดไหน” นายพิธากล่าว
นายพิธากล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 2 กฎหมาย 45 ฉบับที่ก้าวไกลต้องการนำเสนอ มีส่วนได้ส่วนเสียอยู่ที่กรุงเทพฯ เหมือนกัน คือการทำ พ.ร.บ.กรุงเทพมหานคร ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯเขต ซึ่งก็ได้นำเสนอให้ท่านผู้ว่าได้รับทราบไว้
ประเด็นที่ 3 การตั้งคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านในการทำงานระหว่างกรุงเทพมหานครและพรรคก้าวไกล หรือที่เรียกว่า Bangkok transition team ที่ก้าวไกลได้นำเสนอคุณพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค เป็นประธานทางฝั่งพรรคก้าวไกล ทุกท่านที่ยืนอยู่ที่นี่จะเป็นส่วนประกอบของคณะกรรมการการฝั่งพรรคก้าวไกล ในส่วน กทม.ท่านผู้ว่าฯ ก็กรุณาให้ท่านต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯ เป็นประธาน ทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อเป็นรูปธรรม
“ทำให้วันนี้ไม่ใช่การประชุมเสร็จแล้วเลิกกันไป แต่คงจะกำหนดประเด็นพิจารณา และสามารถประชุมครั้งที่ 2 ที่ 3 ได้อย่างมีเนื้อมีหนัง เพื่อประโยชน์ และการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพของพี่น้องชาวกรุงเทพฯทุกคน เป็นถ้อยคำแถลงของท่านผู้ว่าฯ และผม ในฐานะพรรคก้าวไกลด้วย” นายพิธากล่าว
