วันนี้ (21 ธ.ค.) นาย วัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊ก Watana Muangsook แสดงความเห็น หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งเดินนห้าจัดการคดีทุจิต โดยระบุในบทความหัวข้อ “กลัวแล้วครับ…ท่านผู้นำ” ว่า
“ข่าวที่ท่านผู้นำซึ่งเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2559 สั่งการให้ที่ประชุมเร่งรัดคดีทุจริตที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างร้ายแรง เช่น คดีบ้านเอื้ออาทร พร้อมทั้งให้รวบรวมรายชื่อนักธุรกิจที่ทุจริตขึ้นบัญชีดำ ป้องกันไม่ให้เข้ามาประมูลงานภาครัฐได้อีก คือการแสดงถึงการลุแก่อำนาจเผด็จการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ผู้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ที่มีอำนาจสูงสุดบนแผ่นดินนี้ ที่กำลังแทรกแซงการทำงานของ ป.ป.ช. เพื่อใช้เป็นเครื่องมือจัดการกับฝ่ายตรงข้าม” นายวัฒนา ระบุ
โดยอธิบายว่า “คดีบ้านเอื้ออาทรเป็นคดีที่ ป.ป.ช. รับช่วงต่อมาจาก คตส. ที่คณะรัฐประหารปี 2549 ตั้งขึ้นเพื่อจัดการกับ ครม.ในรัฐบาลนายกทักษิณ ผมเป็นคนหนึ่งที่ถูก คตส. เล่นงานตั้งแต่คดีหวยบนดิน คดีการจัดซื้อรถดับเพลิงและคดีบ้านเอื้ออาทร โดยสองคดีแรกศาลฎีกาฯ พิพากษายกฟ้องแล้ว ส่วนคดีบ้านเอื้ออาทรอยู่ในระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช. ฝ่ายบริหารที่รู้ควรจะไม่เข้าไปแทรกแซงรวมถึงไปสั่งให้ขึ้นบัญชีดำนักธุรกิจในขณะที่การไต่สวนยังไม่แล้วเสร็จ ก่อนหน้านี้พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิวัติเมื่อปี 2549 ก็ไม่เคยเข้ามาแทรกแซงการทำงานของ คตส. แม้ท่านจะเป็นผู้แต่งตั้ง จึงทำให้ผมยังเคารพความเป็นนักเลงและการรู้ควรของท่าน”
“การที่ผมวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ คสช. ทำให้ผมถูกรังแกจากเผด็จการสารพัด ถูกลอบทำร้าย ถูกทหารอุ้มตัวมาคุมขัง ถูกยัดคดีอาญาทั้งศาลปกติและศาลทหาร รวมทั้งลูกสาวผมถูกสั่งให้ไปต่างประเทศไม่ให้ช่วยเหลือผมระหว่างถูกควบคุมตัว ดังนั้น การที่ท่านผู้นำผู้มีอำนาจสูงสุดจะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมสั่งการให้ ป.ป.ช. เล่นงานผมจึงไม่ได้เป็นเรื่องแปลก ส่วนที่สั่งให้ที่ประชุมเร่งรัดคดีทุจริตที่ทำความเสียหายให้กับประเทศอย่างร้ายแรงนั้น อย่าลืมดำเนินคดีกับพวกที่โกงอำนาจประชาชนด้วย เพราะการยึดอำนาจประชาชนมาเป็นของตัวเองคือการทุจริตอย่างหนึ่งที่ทำบ้านเมืองเสียหายยับเยิน ถามจริงเถอะคำว่า “ละอาย” ที่แม้แต่เด็กอนุบาลก็ยังสะกดได้ แล้วหัวหน้า คสช. สะกดคำนี้เป็นบ้างมั้ย” นายวัฒนา ระบุ
