‘ณัฐวุฒิ’ ร่วมทำบุญเสื้อแดง ยัน หัวใจยังแข็งแรง 100% ‘พิธาต้องเป็นนายกฯ’ เอาใจช่วยจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก สู้รัฐบาลข้างเดียว
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 มิถุนายน ที่ศาลาการเปรียญ วัดเทวสุนทร ถนนวิภาวดีรังสิต นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร่วมงานทำบุญรำลึกการเสียชีวิตของผู้ประสานงานคนเสื้อแดง โดยมี นพ.เหวง โตจิราการ นางธิดา ถาวรเศรษฐ และคนเสื้อแดงจำนวนมาก เข้าร่วมงาน พร้อมร่วมถวายสังฆทาน ทอดผ้าไตร และถวายเพลภิกษุสงฆ์
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ขออภัยผู้ร่วมงานที่ตนมาช้า เพราะช่วงนี้ตนมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยที่บริเวณน่องขา แต่ว่าไม่ต้องห่วงเพราะหัวใจของตนยังแข็งแรงล้านเปอร์เซ็นต์
“ไม่ต้องห่วงนะครับหัวใจยังล้านเปอร์เซ็นต์” นายณัฐวุฒิกล่าว
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ดีใจที่วันนี้ได้เห็นพี่น้องเสื้อแดงมารวมใจกันส่งความรักความปรารถนาดีให้แก่ผู้ที่ร่วมประสบชะตากรรม ในเหตุต่อสู้ของคนเสื้อแดง ปี พ.ศ.2552 หรือปี พ.ศ.2553 หรือเหตุการณ์ใดๆ ก็แล้วแต่ ไม่ว่าในกลุ่มของคนเสื้อแดงนั้นจะมีความเห็นสนับสนุนแนวทางของพรรคการเมืองใด แต่ในความผูกพันของพี่น้องเสื้อแดง ยังคงมีกันและกันเหมือนเดิมเช่น 10 กว่าปีที่ผ่านมา
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า เอาใจช่วยฝ่ายรัฐบาล 312 เสียงให้จัดตั้งรัฐบาลให้ได้ พรรคที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่ง และแคนดิเดตของพรรคอันดับหนึ่งก็คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ต้องเป็นนายกรัฐมนตรีไม่มีอย่างอื่น
“พรรคอันดับหนึ่งต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และแคนดิเดตนายกฯก็คือคุณพิธา ตรงไปตรงมาแบบนี้ไม่มีอย่างอื่น”
ถ้าฝ่ายที่ชนะการเลือกตั้ง 312 เสียงไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ คงไม่เกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่จะเกิดรัฐบาลเสียงข้างเดียว หมายถึงรัฐบาลรักษาการชุดปัจจุบัน เพราะกฎหมายนั้นระบุไว้ว่ารัฐบาลชุดเก่าจะไปก็ต่อเมื่อรัฐบาลใหม่มา” นายณัฐวุฒิกล่าว
นายณัฐวุฒิยังกล่าวถึงประเด็นข้างต้นว่า หากเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น ทั้ง 8 พรรคที่จะจัดตั้งเป็นรัฐบาลชุดใหม่ ที่นำโดยพรรคก้าวไกลนั้น ก็จะไปเป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่?
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เป็นฝ่ายค้านของใคร? ในเมื่อรัฐบาลเสียงข้างเดียวไม่ได้มาจากการเลือกของสภาชุดนี้ แต่มาจากการอยู่ต่อ เพราะยังไม่มีรัฐบาลใหม่ ทั้ง 8 พรรคจะต้องจับมือร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ หากคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็ควรที่จะไปแข่งกันใหม่ในสนามเลือกตั้ง แต่วันนี้ต้องสู้กับฝ่ายตรงข้ามเพื่อตั้งรัฐบาลของประชาชนให้ได้
เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลและมีการเปิดสภา ตนจะยื่นร่างแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (พ.ร.ป.ป.ป.ช) เนื้อหาคือการแก้ไขคือให้ผู้เสียหายในคดีที่ ป.ป.ช.ปัดตก สามารถฟ้องคดีโดยตรงต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯได้ ซึ่งตัวร่างแก้ไขกฎหมายได้ทำเสร็จแล้ว เตรียมการประสาน ส.ส.ไว้แล้ว 30 คน เพื่อเข้าชื่อเสนอกฎหมายนี้ และนี้จะเป็นภารกิจที่จะทำร่วมกันอีกครั้ง
“ตราบใดที่ยังมีการต่อสู้ ตราบนั้นยังมีจิตวิญญาณของคนเสื้อแดง และต่อให้การต่อสู้ลุล่วงไปแล้ว จะยังคงมีคนเสื้อแดงอยู่บนบรรทัดประวัติศาสตร์การเมืองไทยอย่างเข้มแข็ง และสง่างามแน่นอน” นายณัฐวุฒิกล่าว
