“จุรินทร์” เชื่อก้าวไกลยังเป็นแกนนำจัดตั้ง รบ.อยู่ ทั้งยังยึดหลักตั้ง รบ.ใหม่ เป็นของพรรครวมเสียงข้างมากได้ พร้อมไม่เชื่อมีใบสั่งปมสอบ “พิธา”
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 10 มิถุนายน ที่อาคารสาธรซิตี้ ถนนสาทรใต้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงหน้าตาของรัฐบาลใหม่ว่า ไม่ทราบว่าจะมีการรับรองเมื่อไหร่ แต่ทุกอย่างจะเริ่มต้นที่การรับรองของ กกต. และเปิดประชุมสภาเพื่อเลือกประธานสภา เลือกนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาลต่อไป ทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ส่วนหน้าตาของรัฐบาลจะเป็นอย่างไรนั้นยังคงตอบไม่ได้ แต่ ณ ขณะนี้ยังถือว่าพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ประชาชนให้ความสนใจอยู่ ส่วนตัวยังเชื่อว่าพรรคก้าวไกลเมื่อรวมเสียงข้างมากได้ก็ยังได้จัดตั้งรัฐบาลอยู่
ส่วนกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับพิจารณานายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เรื่องนี้จะส่งผลกับการโหวตเลือกนายกมากน้อยแค่ไหนนั้น คงตอบไม่ได้ แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งผลของการเลือกตั้งเป็นผลของการตัดสินใจของประชาชน แต่ทุกฝ่ายต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญและกฎหมาย ดังนั้นเมื่อ กกต.ดำเนินการอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับ กกต. ว่าจะดำเนินการอย่างไรให้เป็นไปตามกฎหมายไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายได้ และ กกต.ก็ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะหลีกเลี่ยงการบังคับใช้กฎหมายได้ และสุดท้ายก็จะไปที่ศาลส่วนจะเป็นศาลไหนนั้นก็อยู่ที่ประเด็นที่ กกต.ตั้งขึ้น ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายด้วยประเทศของเราเป็นนิติรัฐ
เมื่อถามว่า เชื่อว่าจะไม่มีใบสั่งในเรื่องนี้ นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่ทราบว่าใบสั่งไหนและคงไม่มีใครไปสั่งได้ ทุกอย่างต้องปฏิบัติตามหลักกฎหมายและ กกต.เองก็ต้องเที่ยงธรรมด้วย
เมื่อถามว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจะทำให้พรรครัฐบาลเดิมมาเป็นรัฐบาลได้หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ไม่สามารถตอบอะไรล่วงหน้าได้ เพราะขณะนี้ยังถือว่าพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ก็ขอให้เขาทำสำเร็จถ้ารวมเสียงข้างมากได้ ถ้าในความเห็นส่วนตัวตนยึดหลักหลังเลือกตั้งเสร็จใครรวมเสียงข้างมากได้ก็ได้จัดตั้งรัฐบาล
เมื่อถามว่าถ้า กกต.รับรองการเลือกตั้งทางพรรคประชาธิปัตย์จะเลือกหัวหน้าพรรคเลยหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องนี้ก็เป็นไปตามข้อบังคับพรรคภายใน 60 วันไม่เกิน วันที่ 13 กรกฎาคม ส่วนจะเมื่อไหร่นั้นก็ต้องดูที่ผลของการรับรองการเลือกตั้งของ กกต.ก่อน เพราะคนที่จะมีสิทธิเลือกหัวหน้าพรรคต้องเป็น ส.ส.และกรรมการชุดใหม่ของพรรค