อลงกรณ์ มองอย่างวิญญูชน เชื่อ ‘พิธา’ โอกาสรอดสูงมาก ชี้ กกต.ไม่น่าใช้เวลานาน เว้นดึงเป็นเกมการเมือง

อลงกรณ์ มองอย่างวิญญูชน เชื่อ ‘พิธา’ โอกาสรอดสูงมาก ชี้ กกต.ไม่น่าใช้เวลานาน เว้นดึงเป็นเกมการเมือง

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ในรายการ The Politics ข่าวบ้านการเมือง ทาง “มติชนทีวี” เมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยในตอนหนึ่งกล่าวถึงประเด็นการไต่สวนในกรณีหุ้นสื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

นายอลงกรณ์กล่าวว่า ในความเห็นส่วนตัว ในมุมมองของตน ข่าวสารเรื่องนี้ค่อนข้างสับสน เมื่อผ่านมาระยะหนึ่งจึงได้มาวิเคราะห์กรณีที่ทาง กกต.ไต่สวนตามมาตรา 151 ในประเด็นการถือหุ้นซึ่งเป็นคุณสมบัติต้องห้าม

“ผมดูความจากหลายฝ่าย ไม่ได้ไปถึงขั้นสืบสวนสอบสวน เราไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ตรงนั้น เอาตามวิญญูชนที่มีประสบการณ์ผ่านการเมืองมา 30 ปี ผ่านมาทั้งฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ ก็พิเคราะห์ได้ว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรมากเลย

Advertisement

“มันเป็นเรื่องง่ายๆ เพียงแค่พิสูจน์เท่านั้นว่าคุณพิธาถือหุ้นในนามผู้จัดการมรดก หรือในนามส่วนตัว ถ้าถือหุ้นในนามผู้จัดการมรดกมันก็ไม่เข้าข่ายอยู่แล้ว เพราะมันไม่มีความเป็นเจ้าของโดยส่วนตัวมาตั้งแต่ต้น” นายอลงกรณ์กล่าว

นายอลงกรณ์กล่าวว่า เรื่องนี้มีศาสตราจารย์ นักกฎหมาย มาให้ความเห็นในเรื่องนี้กันพอสมควร เห็นตรงกันบ้าง ไม่ตรงกันบ้าง เอาข้อกฎหมายมาจับข้อเท็จจริง ส่วน กกต.เมื่อเป็นฝ่ายริเริ่มเองในการสั่งให้มีการไต่สวน ซึ่งก็น่าเชื่อได้ว่า กกต.มีข้อมูลระดับหนึ่งแล้วถึงกล่าวได้ว่ามีเหตุอันควรสงสัย ฉะนั้น ประเด็นของการถือหุ้นมีแค่จุดเดียวเท่านั้น ส่วนประเด็นที่เป็นสื่อไม่สื่อเป็นประเด็นหลัง ไม่ได้เกี่ยวข้องเลย

Advertisement

“ผมเองก็ยื่นทรัพย์สินมาเยอะ เพราะฉะนั้นก็ทราบดีเรื่องคุณสมบัติ ข้อห้ามต่างๆ มาตรา 151 เป็นฐานกฎหมายอาญา ดังนั้น มันเป็นฐานที่ต้องมีเจตนาว่าต้องการที่จะปกปิด ต้องการที่จะหลีกเลี่ยง หลบหลีก หรืออะไรทำนองนี้ เอาแค่ว่าข้อแรกเท่านั้นว่ามันมีมูลหรือเปล่า” นายอลงกรณ์กล่าว

นายอลงกรณ์กล่าวว่า ตนพยายามที่จะดูทั้งข้อเท็จจริงข้อกฎหมายต่างๆ มา ในที่สุดก็คิดว่า ประการแรก คือโอกาสที่นายพิธารอดเรื่องนี้สูงมาก ประการที่สอง คือไม่น่าจะใช้เวลานาน เว้นแต่จะดึงเป็นเกมซื้อคดีการเมือง ด้วยสมมุติฐานว่า กกต.เองต้องมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีเหตุอันควรสงสัยจึงได้สั่งให้มีการไต่สวน

“มันก็ไม่ควรจะเกิน 30-45 วัน ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ เนื่องจากว่าคุณพิธาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะมีกระบวนการของรัฐสภาในการจะโหวต ถ้ายังมีข้อสงสัยเป็นชนักปักหลังมันเป็นโทษและไม่เป็นคุณกับการโหวตเนื่องจากอาจจะอ้างได้อย่างนั้นอย่างนี้

“ผมว่าเพื่อความบริสุทธิ์ใจของ กกต. เพื่อความโปร่งใสของกระบวนการทั้งหลายว่าอันนี้เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการเมือง กกต.จะเกี่ยวไม่ได้เพราะว่าเป็นองค์กรอิสระอยู่แล้ว ดังนั้น ยิ่งทำให้เร็วเท่าไหร่ ผมเลยขมวดปมว่ามีโจทย์เดียว มันไม่ได้ยากอะไรเลย” นายอลงกรณ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image