ก้าวไกล เปิด 5 นโยบาย ดีอีเอส จ่อยุบ ศูนย์ต้านข่าวปลอม หยุดใช้อำนาจรัฐปิดปากปชช.

ก้าวไกล จ่อยุบ ศูนย์ต้านข่าวปลอม หยุดใช้อำนาจรัฐปิดปากปชช. ชี้ ดีอีเอส ต้องเป็นฟันเฟืองพลิกโฉมประเทศ

เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พรรคก้าวไกลได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า รู้สึกหรือไม่ ว่าการที่เราต้องกรอกชื่อ-ที่อยู่ตามบัตรประชาชนทุกครั้งที่เราต้องไปติดต่อขอรับบริการจากหน่วยราชการนั้นเป็นปัญหา?

ทำไมหลังจากที่รัฐบาลไทยพูดถึงนโยบาย Single Digital ID มาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปี แต่ทุกครั้งที่ประชาชนต้องการรับสวัสดิการจากรัฐ ยังต้องเดินทางไปที่หน่วยงานเพื่อกรอกข้อมูลใหม่ทุกครั้ง?

นี่คือปัญหาเล็กๆ ที่เชื่อมโยงถึงปัญหาโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่สำคัญของประเทศ

Advertisement

ที่ผ่านมา ถ้าพูดถึงบทบาทกระทรวงดิจิทัล นอกจากการบล็อกเว็บไซต์แล้ว พวกเราคิดถึงหน้าที่อื่นไม่ออก แต่เรามองเห็นศักยภาพที่อยู่ในภารกิจของกระทรวงในการวางรากฐานอนาคตของประเทศอย่างน้อย 5 อย่างด้วยกัน

(1) Single Digital ID

ทำให้บัตรประชาชนของเราใบเดียว หรือเลข 13 หลัก สามารถเชื่อมต่อฐานข้อมูลกันระหว่างหน่วยงานรัฐทั้งหมด ขอรับบริการอะไร แค่ยื่นบัตรประชาชน หรือกรอกเลขบัตรประชาชนทางอินเตอร์เน็ตก็สามารถรับบริการได้ทันที แม้จะพูดกันมาแล้วหลายรัฐบาล แต่ผู้บริหารสูงสุดของกระทรวงไม่มีความเข้าใจเทคโนโลยีเพียงพอ ทำให้ความคืบหน้าของโครงการย่ำอยู่กับที่

Advertisement

แต่ในรัฐบาลของพรรคก้าวไกล พวกเราจะเข้าไปทุบโต๊ะเพื่อเชื่อมโยงระบบข้อมูลของหลายหน่วยงานที่กระจัดกระจาย เพื่อรวมข้อมูลให้เหลือระบบเดียวให้ได้ ซึ่งจะนำไปสู่การต่อยอดให้นโยบายนี้เกิดได้จริง

(2) โครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล

โดยปกติเมื่อเราพูดถึงโครงสร้างพื้นฐาน เรามักจะคิดถึงถนน ทางด่วน หรือรถไฟความเร็วสูง แต่สำหรับพรรคก้าวไกล โครงสร้างพื้นฐานที่จะทำให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจของยุคปัจจุบัน คือโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กัน

ความฝันของพรรคก้าวไกลคือการสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่รวบรวมข้อมูลทุกอย่างของภาครัฐและภาคเอกชน จัดเก็บในระบบฐานข้อมูลเดียวและเปิดให้ทุกคนนำไปใช้ประโยชน์ต่อยอดทางเศรษฐกิจและสังคมได้ ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยและการรักษาสิทธิข้อมูลส่วนบุคคล

การทำให้ Megaproject ด้านข้อมูลนี้เกิดขึ้นให้ได้ จำเป็นต้องมีการทำงานทั้งในแง่ของกฎหมายและแพลตฟอร์ม อันเป็นภารกิจของพรรคก้าวไกลที่จะต้องผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้

(3) เปิดข้อมูลภาครัฐทั้งหมดให้เป็น “รัฐเปิดเผย”

สิ่งที่เปิดได้ทันที คือข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดจะต้องออกมาในรูปแบบที่เข้าถึงและตรวจสอบได้ เอกสารงบประมาณและทุกเอกสารราชการจะต้องเปลี่ยนจาก pdf ที่สแกนมาจากกระดาษ ให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถดึงออกมาประมวลผล รวมทั้งการประชุมต่างๆ ของหน่วยงานรัฐจะต้องมีการไลฟ์สดการประชุมให้ประชาชนสามารถสืบค้นได้ นี่คือสิ่งที่รัฐบาลก้าวไกลต้องการผลักดัน

(4) การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์

สิ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลคนใหม่ทำได้ทันที คือการนั่งหัวโต๊ะและเรียกคุยกับทุก social media platform ให้บังคับใช้ ‘การยืนยันตัวตนโดยใช้หลายปัจจัย’ (Multi-Factor Authentication; MFA) ให้ทุกส่วนราชการที่เปิดช่องทาง social media ต้องลงทะเบียนอีกชั้น ซึ่งจะแก้ปัญหาการที่เพจหน่วยงานรัฐต่างๆ ถูกแฮกได้ สิ่งนี้ทำได้เลยไม่ต้องรอจัดซื้อจัดจ้าง ไม่ต้องใช้งบประมาณ เพจหน่วยงานไหนที่ไม่ทำตามมาตรฐานความปลอดภัยก็จะถูกระงับการใช้งานไปก่อนจนกว่าจะปฏิบัติตามมาตรฐาน

ส่วนในระยะยาว รัฐบาลพรรคก้าวไกลจะทำให้ Cloud กลางภาครัฐเกิดขึ้นจริง เพื่อป้องกันระบบจากการถูกแฮก และผลักดันกฎหมาย Data Protection Act เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนที่มีมาตรฐานมากขึ้น

(5) ยุบศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม และเลิกบทบาทปิดกั้นสิทธิเสรีภาพทั้งหมด

การบอกว่าอะไรจริงหรือไม่จริงไม่ใช่หน้าที่ของรัฐ หน้าที่ของรัฐ คือการเปิดให้สังคมทุกภาคส่วนเข้ามาตรวจสอบ ถกเถียง และนำเสนอชุดความจริงจากฝั่งของตนเอง โมเดลที่ดีคือเหมือน Co-Fact ของไต้หวัน ซึ่งเป็นศูนย์ที่ดำเนินการโดยองค์กรสื่อ สมาคมสื่อ และภาคประชาสังคม

กระทรวงดิจิทัล ภายใต้รัฐบาลพรรคก้าวไกล จะไม่ใช่กระทรวงที่มีหน้าที่บล็อกเว็บไซต์ แต่จะต้องเป็นกระทรวงที่เอื้อต่อสังคมที่ทำให้เกิดสิทธิและเสรีภาพ หนึ่งใน 45 กฎหมายที่พรรคก้าวไกลเสนอ คือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่จะยกเลิกอำนาจรัฐในการปิดปากประชาชน

หลายคนอาจคิดว่ากระทรวงที่มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนประเทศ คือ กระทรวงเกรด A++ ที่มีงบประมาณเยอะ หรือมีอำนาจมากในการให้คุณให้โทษข้าราชการ

แต่สำหรับพรรคก้าวไกล กระทรวงที่เป็นฟันเฟืองตัวแรกในการพลิกโฉมอนาคตของประเทศ คือ “กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image