‘วิโรจน์’ ลุยแก้ทุจริตอาหารกลางวัน ชี้ โทษหนักทั้งทางกฎหมายและสังคม มองกรณี ‘หยก’ ทุกฝ่ายกำลังหาทางออกอย่างสร้างสรรค์
เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีจากการที่นายวิโรจน์ได้แชร์เรื่องการตรวจสอบการทุจริตอาหารกลางวันของนักเรียนว่า เรื่องอาหารกลางวันที่อาจจะไม่มีคุณค่าทางโภชนาการพอ เรียกว่าเป็นปัญหาที่ซับซ้อนมาก ไม่ใช่ว่าเราปราบคอร์รัปชันที่เกี่ยวกับในการจัดซื้ออาหารกลางวัน การแก้ไขแค่นี้ไม่สำเร็จ เพราะ
1.ในบางที่งบประมาณไม่สมเหตุสมผลกับต้นทุนลองดูว่างบประมาณอาหารกลางวันต่อคน ตอนนี้อยู่ราวๆ 22-26 บาทต่อคน ขึ้นอยู่กับจำนวนนักเรียน หากหักค่าวัตถุดิบต่างๆ ก็แทบไม่เหลือค่าแรงให้แม่ครัว
2.โรงเรียนขยายโอกาสหลายแห่ง ปฏิบัติผิดระเบียบ ที่ให้นักเรียนมัธยมฯมาร่วมทานอาหารที่เหลือจากนักเรียนชั้นประถมฯ เนื่องด้วยความขาดแคลน ซึ่งทำให้จำเป็นต้องทานอาหารเหลือจากน้อง ต้องนำงบปนะมาณมาเจียดในส่วนนี้ ซึ่งไม่เพียงพอ
3.โรงเรียนขนาดเล็กมีงบประมาณอาหารกลางวัน 36 บาทต่อคนเพียงพอจริงหรือ
4.ระเบียบที่ไม่เอื้ออำนวย หากโรงเรียนขนาดเล็กอยากรวมตัว เพื่อการจัดซื้อจัดจ้างร่วมกันก็ไม่สามารถทำได้ ตอนนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ก็อุดหนุนเงินเข้าไป แต่ก็ยังไม่สะดวกเพราะตั้งแต่มีการลดการเก็บภาษีที่ดิน ที่ปรับลดลง 90 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ตอนนี้รัฐบาลติดหนี้ค้างจ่าย อปท. ทั่วประเทศ กรุงเทพฯ ค้างอยู่ 30,000 ล้านบาท ก็ยังไม่มีแผนชำระคืน ทำให้ อปท.ไม่มีเงินมาอุดหนุน และเรื่องสุดท้าย หากเราสามารถจัดการเรื่องงบประมาณเรียบร้อยแล้ว ต้องมาดูแลในเรื่องของความโปร่งใส การปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น
นายวิโรจน์กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าการคอร์รัปชั่นในเรื่องของอาหารกลางวันมีโทษหนักตามกฎหมาย รวมทั้งโทษทางสังคมด้วย ดังนั้นการโกงอาหารกลางวันเท่ากับการทำลายอนาคตของชาติ ซึ่งเราแก้ไขแค่การปราบปรามการทุจริตไม่ได้ ต้องทำให้งบประมาณสมเหตุสมผลด้วย
เมื่อถามถึงกรณีของ นางสาวธนลภย์ หรือหยก ที่อาจจะถูกตัดสถานภาพความเป็นนักเรียน นายวิโรจน์กล่าวว่า กรณีนางสาวธนลภย์อยู่ในกระบวนการที่แก้ไข และหารือเพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ คิดว่าการที่คนที่มีข้อมูลอีกแบบ มาพูดนอกรอบนั้นไม่เกิดประโยชน์ ตนเชื่อว่านักเรียนทุกคน รวมทั้งนางสาวธนลภย์พยายามทำให้นักเรียนทุกคน รวมทั้งนางสาวธนลภย์นั้น สามารถเข้าเรียนได้อยู่แล้ว หากติดปัญหาตรงไหนก็พูดคุยกัน จุดยืนคือทุกคนต้องได้เรียนหนังสือ