นักวิชาการ จี้ ‘ตั้ง รบ.ใหม่’ ไวที่สุด ช่วยเด็กหลุดระบบการศึกษานับแสน ดันวาระเร่งด่วน แนะสร้างอาชีพแก้จน
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศูนย์ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในภาวะวิกฤตทางการศึกษา กสศ. ร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (วสศ.) หน่วยปฏิบัติการวิจัยเพื่อการพัฒนาด้านเด็กและเยาวชน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จัดเวทีเสวนา ‘เปิดเทอมที่ไม่ได้เรียนต่อ’ เพื่อเสนอรายงานข้อค้นพบจากศูนย์ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในภาวะวิกฤตการศึกษา กสศ. โดยมีทั้งนักวิชาการ นักกิจกรรม และนักการเมืองที่ทำงานด้านการศึกษาเข้าร่วมการเสวนา
ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิภาคประชาสังคม กสศ. กล่าวว่า จากตัวเลขเด็กหลุดจากระบบที่ทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยข้อมูลล่าสุดสูงถึงกว่า 100,000 คน โดยสาเหตุหลักมาจากปัญหาความยากจนของครอบครัวที่ผลักให้เด็กต้องออกจากการเรียนเพื่อไปทำงานหาเงินแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ตนเห็นว่าในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลเช่นนี้จะต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด และผลักดันให้เป็นวาระเร่งด่วน เพราะปีการศึกษา 2566 จะเกิดปรากฏการณ์ที่มีเด็กหลุดจำนวนมาก เพราะครัวเรือนยากจนไม่สามารถฟื้นตัวจากผลกระทบทางเศรษฐกิจจากช่วงโควิด-19 และหากยังไม่มีมาตรการที่เหมาะสมเด็กเหล่านี้จะหลุดออกนอกระบบการศึกษาและตกอยู่ในกับดักความยากจนข้ามรุ่นอย่างถาวร
ศ.ดร.สมพงษ์กล่าวว่า นโยบายที่จะมาแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ต้องประกอบไปด้วยมาตรการสร้างรายได้ให้ผู้ปกครองที่มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงแหล่งงานและเงินทุน เพื่อมีความสามารถในการอุปการะบุตรหลานของตัวเอง การมีทางเลือกการศึกษาที่หลากหลายและมีความยืดหยุ่น รวมถึงสวัสดิการเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนที่ครอบคลุมทุกช่วงชั้น โดยเฉพาะอนุบาล ม.ปลาย สายอาชีพ และทุกรูปแบบการศึกษา นอกจากนี้มาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายทางการศึกษาจะต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากค่าเล่าเรียนด้วย เช่น ค่าเดินทาง ซึ่งจากผลการสำรวจพบว่ามีเด็กจำนวนมากที่ต้องหลุดออกนอกระบบการศึกษา เพราะไม่สามารถแบกรับค่าเดินทางในการไปเรียนหนังสือได้
“ในปีการศึกษา 2566 ศูนย์ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในภาวะวิกฤตทางการศึกษา กำลังช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายระดับวิกฤตราว 1,100 คน ผ่านกลไกระดับพื้นที่ เพื่อให้ได้เรียนกับศูนย์การเรียนซึ่งเป็นเส้นทางการศึกษาทางเลือกที่วางแผนการเรียนและพัฒนาทักษะ Soft Skills ทักษะอาชีพเป็นรายคน ตามข้อจำกัดของเด็ก ในจำนวนนี้รวมถึงเด็กและเยาวชนในสถานพินิจและศูนย์ฝึกอบรม พ่อแม่วัยรุ่น” ศ.ดร.สมพงษ์กล่าว