‘เศรษฐา’ ใส่เสื้อคราฟต์แพร่ นำทีม รับฟังข้อเสนอ 24 กลุ่มเศรษฐกิจแพร่ หาทางออก-สร้างรายได้

‘เศรษฐา’ ใส่เสื้อคราฟต์แพร่ นำทีม รับฟังข้อเสนอ 24 กลุ่มเศรษฐกิจแพร่ หาทางออก-สร้างรายได้ ตัวแทนกลุ่มโอด 9 ปีถูกทอดทิ้ง ลั่น ‘เพื่อไทย’ คือความหวังทำเศรษฐกิจดี

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่โรงแรมแพร่นครา นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานนโยบายด้านเกษตรพรรค พท. พร้อมด้วยนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล และ นพ.นิยม วิวรรธนดิฐกุล ส.ส.แพร่ พรรค พท. ร่วมสัมมนาแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเหนือ และรับฟังความเห็นจากตัวแทน 24 กลุ่มเศรษฐกิจ จ.แพร่ ประกอบด้วย 1.หอการค้าแพร่ 2.สภาอุตสาหกรรมแพร่ 3.ชมรมท่องเที่ยวแพร่ 4.ศูนย์บริหารจัดการน้ำจังหวัดแพร่ 5.กลุ่มปัญหาที่ดินและป่าชุมชน 6.กลุ่มผักออร์แกนิคP8 7.กลุ่มทุเรียนแพร่ 8.กลุ่มพริกโรงงาน 9.กลุ่มวิสาหกิจน้ำผึ้งแพร่ 10.กลุ่มส้มเขียวหวาน 11.ภาคีเครือข่ายผู้บ่มใบยาสูบและชาวไร่บ่มเองเหนือและอีสาน 12.กลุ่มข้าวหอมมะลิ 13.กลุ่มกาแฟภูเขาไฟ 14.กลุ่มแพร่คล้าฟ ผ้าทอ ม่อฮ่อม 15.กลุ่มผ้าจกโบราณ 16.กลุ่มไม้สักทอง 17.กลุ่มสุราแพร่แข็งจ๊ด 18.กลุ่มพุทราแพร่ 19.กลุ่มวิสาหกิจโอท็อปอาหารแพร่ 20.กลุ่มหัตถกรรมเหล็ก 21.กลุ่มคมนาคมภาคเหนือ 22.กลุ่มสถาบันการศึกษา 23.กลุ่มทำเหล็ก และ 24.YECแพร่ (นักธุรกิจรุ่นใหม่ หอการค้าแพร่) โดยมีนายนพพล เหลืองทองนารา ส.ส.พิษณุโลก, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่, น.ส.ศรีโสภา โกฏคําลือ ส.ส.เชียงใหม่, นายณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ ส.ส.น่าน และนายรังสรรค์ มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย ร่วมหารือด้วย

ก่อนเริ่มกิจกรรม นายเศรษฐาและคณะได้เลือกสวมใส่เสื้อชุดม่อฮ่อมที่ผ่านการออกแบบใหม่โดยกลุ่มแพร่คราฟต์ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ใน จ.แพร่ ที่เลือกใช้ผ้าพื้นเมือง และสีย้อมธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี รักษ์โลก ผ่านการออกแบบ-ตัดเย็บโดยคนรุ่นใหม่ ตัดผ้าฝ้ายย้อมของล้านนาให้ออกมาทันสมัย แปลกตา โดนใจวัยรุ่น ทำให้มีคนแซวนายเศรษฐาและคณะว่า “หล่อกระชากวัยเลย”

จากนั้นได้มีการเปิดโอกาสให้ตัวแทนจากกลุ่มต่างๆ ลุกขึ้นบอกเล่าถึงปัญหา และเสนอความต้องการ แนวทางแก้ไขปัญหาต่อพรรค พท. โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มเกษตรกรรม, กลุ่มหัตถกรรม และกลุ่มธุรกิจ-อุตสาหกรรม

Advertisement

โดยตัวแทนภาคเอกชนได้สะท้อนปัญหา พร้อมข้อเสนอว่า เราต้องการการปรับปรุงและขยายสนามบิน หลังจากที่มีเที่ยวบินมานานกว่า 10 ปี วันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ต้องประกาศหยุดบิน ทำให้เกิดผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและการลงทุนในจังหวัดเป็นอย่างมาก วันนี้ จ.แพร่มีความพร้อมในการขยายสนามบิน แต่ขาดการดำเนินการอย่างจริงจังโดยรัฐ

ตัวแทนภาคเอกชนกล่าวต่อว่า อีกประเด็นคือการขยายถนน เพราะเส้นทางการคมนาคมของเราโดยล้อมโดยภูเขาและป่าไม้ ทำให้เราขยายเส้นทางในการคมนาคมได้ลำบาก จึงฝากเรื่องนี้ให้พิจารณาแก้ไขด้วย สำคัญที่สุดสำหรับภาคเอกชน คือ การลดต้นทุนการผลิตไม่ว่าจะเป็นราคาปุ๋ย และราคาพลังงาน และภาษี สุดท้ายเรื่องการท่องเที่ยว เรามีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม มีอาหารและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังขาดการวางแผน และการโปรโมตการท่องเที่ยวให้กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกเมืองหนึ่ง

ด้านตัวแทนหอการค้าจังหวัดแพร่กล่าวว่า เราต้องการบูสต์เศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว โดยปรับปรุงจากสิ่งที่มีให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเราเพิ่งเผชิญกับวิกฤตโควิดมา การท่องเที่ยวเป็นหน่วยที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่การท่องเที่ยวก็เป็นสิ่งที่จะสามารถึงเม็ดเงินกลับมาได้ไวที่สุดด้วยเช่นกัน จ.แพร่ เรามีพื้นที่ป่ามากกว่า 80% ซึ่งเราสามารถโปรโมตการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและอันซีนได้ เราอยากให้มีการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามใหม่ นอกจากนี้ เราต้องการเติมเงินเข้าจังหวัด เพื่อขยายการเติบโตของธุรกิจโรงแรม เราอยากให้รัฐช่วยสนับสนุนการจัดกิจกรรม หรืออีเวนต์ต่างๆ เพื่อให้กับพื้นที่และธุรกิจโรงแรมได้มีเม็ดเงินมาเติมกำลังต่อไป

Advertisement

ขณะที่ตัวแทนภาคอุตสาหกรรมกล่าวว่า จ.แพร่ถูกพันธนาการด้วยผังเมืองทำให้ไม่สามารถขยายพื้นที่ทางอุตสาหกรรมได้ เพราะติดพื้นที่สีเขียว ทำให้สร้างโรงงานไม่ได้ ห้องเย็นก็ทำไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อรายได้ทางการเกษตร เพราะเราแปรรูปอะไรไม่ได้เลย เราจึงรวบรวมปัญหาเหล่านี้ทำเป็นเอกสารมอบไปยังทางพรรค พท. เพื่อช่วยพวกเราหาทางแก้ไขปัญหาด้วย นอกจากนี้ เราต้องการให้ภาครัฐดูแลเรื่องการรับรองผลิตภัณฑ์ของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมามีความยากลำบาก และติดขั้นตอนต่างๆ ทำให้การรับรองสินค้าและผลิตภัณฑ์ของประชาชนมีความล่าช้า กระทบทั้งต่อการผลิต และรายได้ของผู้ประกอบการ

“วันนี้เราถือว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่พรรคหนึ่งที่กำลังจะก้าวไปเป็นพรรครัฐบาล พวกเราเชื่อมั่นการบริหารประเทศให้ดีขึ้นของท่านตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน พวกเราชาวแพร่ทั้งจังหวัดจึงได้ยกความไว้วางใจของพวกเราให้กับพรรคเพื่อไทยอย่างท่วมท้นเสมอมา ดังนั้น เราเชื่อและหวังอย่างยิ่งว่า เมื่อท่านได้เข้าไปนั่งบริหารงานในกระทรวงต่างๆ แล้ว ท่านจะหยิบเอาปัญหาของพวกเราชาวแพร่ที่ได้สะท้อน และนำเสนอให้ท่านได้รับทราบในวันนี้เข้าไปดำเนินการแก้ไขให้กับเราอย่างเต็มกำลังความสามารถ สำหรับพวกเราพรรคเพื่อไทยคือพรรคแห่งความหวัง ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา ที่เราอยู่ภายใต้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เราสูญเสียโอกาสไปมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการเติบโต โอกาสทางเศรษฐกิจ และโอกาสที่เราจะได้อยู่ดีกินดี มีที่ดินทำกิน และส่งมอบโอกาสดีๆ เหล่านั้นให้กับลูกหลาน 4 ปีที่แล้ว เราเคยเลือกผู้แทนที่ไม่เคยลงพื้นที่ทำงาน ไม่เคยลงรับฟังปัญหาจากประชาชน และสุดท้ายก็กลายเป็นผู้แทนงูเห่า แพร่ขาดงบประมาณ ขาดการพัฒนาอย่างถูกทิศทาง ขาดโอกาสสื่อสารกับรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาของ จ.แพร่ วันนี้เราดีใจที่ได้ผู้แทนจากพรรคเพื่อไทย และได้พรรคเพื่อไทยกลับคืนมาอีกครั้ง หวังว่า ส.ส.และพรรคเพื่อไทยจะไม่ทอดทิ้งเราชาวแพร่เหมือนอย่างที่รัฐบาลก่อนหน้านี้เคยทำมา” ตัวแทนกลุ่มอุตสาหกรรมกล่าว

ฟากนายวรวัจน์กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีของเรา จ.แพร่ผูกพันกับพรรค พท.มาโดยตลอด เพราะพรรค พท.ลงมาพัฒนา และวางรากฐานอาชีพให้กับประชาชน จ.แพร่ จุดแข็งที่สุดของพรรค พท.เรา คือการวางรากฐานทางเศรษฐกิจ และเรามั่นใจว่าพรรค พท.จะทำได้อีกครั้ง เพราะตลอด 9-10 ปีที่ผ่านมา เราถูกทอดทิ้ง ไม่มีงบประมาณอะไรลงมาที่จังหวัดของเราเลย เราขาดการพัฒนาไปช่วงหนึ่ง วันนี้เราจึงดีใจที่เราจะได้เข้ามาทำงานเพื่อพี่น้องปประชาชนอย่างเต็มที่อีกครั้ง

ขณะที่นายเศรษฐากล่าวว่า วันนี้ กกต.ได้รับรอง ส.ส.ของเราแล้ว สมศักดิ์ศรีที่ทำให้พรรค พท.เราได้รับเลือกเข้ามายกจังหวัด เพราะท่าน ส.ส.ใกล้ชิดและดูแลพี่น้องประชาชนอย่างจริงจัง ตนเองได้รับมอบหมายให้มารับฟังปัญหาและวางเป้าหมายเพื่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป หลังจากวันนี้เมื่อมีการรับฟังปัญหาแล้ว อาจจะมีคณะกรรมการย่อยลงมารับฟังปัญหาเฉพาะกลุ่มแบบจริงจัง และเจาะลึกเพื่อวางแนวทางการแก้ปัญหาให้ประชาชน ไม่ใช่เพียงมาฟังแล้วจากไป

นายเศรษฐากล่าวต่อว่า วันนี้ทางพื้นที่ต้องพูดคุยกันก่อน แต่เรายืนยันว่าเราต้องขึ้นค่าแรงให้ประชาชน แต่ต้องขึ้นอย่างเหมาะสม ไปพร้อมกับเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น นอกจากนี้ นโยบายเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นเรื่องที่สำคัญ และการขยายสนามบินเป็นสิ่งที่ตนเห็นด้วย แต่สนามบินจะมาได้ เราต้องขยายทั้งธุรกิจและการท่องเที่ยวให้แข็งแรงก่อน อยากให้คนมาแพร่แล้วมาอยู่นานๆ

นายเศรษฐากล่าวด้วยว่า ตนอยากให้ จ.แพร่มีมรดกโลก เพราะ จ.แพร่มีวัดและสถานที่สำคัญๆ จำนวนมาก วันนี้การท่องเที่ยวกำลังค่อยๆ กลับมาบูม ดังนั้น ปัญหาบางอย่างอาจจะต้องให้เวลาเพื่อแก้ไขปัญหาด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ วันนี้เราเป็นประเทศที่มีความมั่นคงทางอาหาร ในขณะที่หลายประเทศไม่มีอาหารกิน ถ้าเรามีการแปรรูป หรือเก็บรักษาอาหารด้วยเทคโนโลยีได้ดีอย่างที่แพร่กำลังดำเนินการอยู่นี้ จะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับประชาชน ซึ่งทางเรามองเห็น ส่วนราคาพลังงานวันนี้เรามีทีมงานศึกษาเรื่องนี้เพื่อแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนแล้ว

“อย่างไรก็ตาม แพร่เป็นจังหวัดที่พรรคเพื่อไทยเราต้องกลับมาทำงานให้พี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน เพื่อตอบแทนทุกคะแนนที่พี่น้องประชาชนให้เรามาผ่านการเลือกตั้งที่ผลออกมายกจังหวัดให้เพื่อไทย เราจะกลับมาทำงานร่วมกันกับพี่น้องประชาชน เป็นการทำงานในมิติใหม่ ที่เราพรรคเพื่อไทยจะหาทางแก้ไขปัญหา และทำงานร่วมกันไปกับพี่น้องประชาชน” นายเศรษฐากล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image