‘ทูตรัศม์’ แนะหาจุดร่วม เบรกสังคม ‘ยื้อยุด’ ชุดความคิดต่าง ห่วงพังไปข้าง-ยันแรงเข้าหากันไม่มีวันจบ
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตเอกอัครราชทูตในไทยหลายประเทศ และเจ้าของเพจ ‘ทูตนอกแถว’ ให้สัมภาษณ์มติชนทีวี ผ่านรายการ The Politics ข่าวบ้านการเมือง เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยในตอนหนึ่งได้กล่าวถึงกรณี น.ส.ธนลภย์ ผลัญชัย หรือ หยก เยาวชนนักเคลื่อนไหว อายุ 15 สมาชิกกลุ่มนักเรียนล้ม ในประเด็นเรื่องชุดนักเรียนและกฎระเบียบของโรงเรียนที่กำลังเป็นที่ถกเถียงในสังคมอยู่ในขณะนี้
นายรัศม์กล่าวว่า ไม่ใช่กรณีของหยกกรณีเดียว แต่ตอนนี้แทบทุกมิติของสังคมไทยกำลังเกิดการยื้อกันอยู่ระหว่างฝ่ายอนุรักษนิยม ซึ่งฝ่ายอนุรักษนิยมในที่นี้ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่เป็นชุดความคิดที่ยังเป็นแบบอนุรักษนิยม เด็กก็มีความคิดอนุรักษนิยมได้ ไม่ใช่ว่าต้องเป็นคนแก่อย่างเดียว
“มันเป็นเรื่องความคิด เป็นภาคหนึ่งของสังคม แต่อีกภาคหนึ่งมันดึงรั้งกันอยู่ คือผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวหน้า ซึ่งอันนี้มันเป็นทุกมิติไม่ใช่เรื่องเฉพาะชุดนักเรียนหรอก มันทั้งหมดเลยในตอนนี้ เรากำลังกระชากกันไปมาอยู่” นายรัศม์กล่าว
นายรัศม์กล่าวต่อว่า ตามหลักการเจรจาทางการทูต หรืออะไรทุกอย่าง ถ้าเราไม่อยากให้ความขัดแย้งจบลงด้วยความรุนแรง หรือต้องชนะกันไปข้างหนึ่ง ก็ต้องมีการหาจุดร่วม คือการประนีประนอมจึงจะหาข้อยุติได้
“มันก็ต้องหาจุดร่วม หรือการประนีประนอมที่สามารถยอมรับด้วยกันได้ทุกฝ่าย ตั้งข้อสังเกตว่าถ้าแรงเข้าหากันมันก็ไม่มีทางจบ หรือมันยากที่จะจบได้ จะเอาตามสิ่งที่ฉันต้องการไม่ว่าฝ่ายไหน ยืนกรานตามนั้น ผมว่ามันก็ยากอยู่ที่จะหาจุดที่จะไปต่อด้วยกันได้ ไม่ใช่ว่าจะเอาต้องชนะทั้งหมดตามเกมฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
“จริงๆ แล้ว พูดไปมันก็ทุกเรื่องในสังคมไทยนั่นแหละ ถ้าหาจุดประนีประนอมไม่ได้ ก็พังไปข้างหนึ่ง ถ้าจะเอาอย่างนั้น” นายรัศม์กล่าว
อ่านข่าว :
- หยก เข้าโรงเรียนได้ปกติ เตรียมแถลงตามหลัง พม. เผยครูเลขไม่ตรวจการบ้าน อ้างไร้ชื่อนักเรียน
- กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ยื่นหนังสือเซฟหยก ปลัดพม.ย้ำ! ไม่ต้องห่วง เรื่องเด็กสำคัญอยู่แล้ว