“ชาดา” อวยพรขอ “พิธา” ตั้ง รบ.ได้สำเร็จ ร้องเพลงกราวกีฬากระตุกคิด อย่าเล่นจนเกินกติกา เปรียบกรรมการยังไม่เป่านกหวีด อย่าบีบสังคมให้เดินไปตามใจคุณ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 มิถุนายน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี เขต 2 พรรคภูมิใจไทย เดินทางเข้าถึง กกต.ด้วยอาการเจ็บเท้า พร้อมกับระบุกับผู้สื่อข่าวว่าเกิดอุบัติเหตุสะดุดฟุตปาธที่จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ต้องใช้ไม้ค้ำยันเวลาเดิน
จากนั้น นายชาดาได้เข้าไปเซ็นเอกสารเอาใบรับรอง ส.ส. เพื่อไปยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎร ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี และโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า เขาไม่เอาเรา จะไปโหวตให้ได้อย่างไร เราก็ต้องมีมติพรรค ซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็อยู่ในระเบียบและกติกามาโดยตลอด ซึ่งการทำงานในสภาชุดที่แล้วถือว่าทำงานได้สมบูรณ์แบบ เราทำตามระบบอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรี พรรคยังไม่มีการประชุมเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคมีมติทั้งเรื่องนายกรัฐมนตรีและประธานสภาแล้ว จะไม่มีการโหวตสวนใช่หรือไม่ นายชาดากล่าวว่า เรื่องนี้ก็ต้องดูกัน แต่พรรคไม่เคยมีปัญหา วันนี้ได้แต่เอาใจช่วยนายพิธา ขอให้ตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ให้ตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ภท.พร้อมเป็นได้ทุกฝ่าย ส่วนตัวเป็นรัฐบาลมา 3 ครั้ง ถือว่าเป็นวาสนา พร้อมยังฝากถึงสื่อมวลชนและด้อมต่างๆ ว่าอย่าเล่นจนเกินเหตุ
“กติกามันมี วันเวลามันมี ยังไม่ถึงเวลา อย่าเพิ่งไปอะไร พอถึงวันเวลาอย่างไรก็หนีไม่พ้น พรรคอันดับหนึ่งก็ต้องจัดตั้งรัฐบาล ส่วนจะคุยกับใครได้ ไม่ได้ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ก็ต้องรอวันรายงานตัว รอเปิดสภาและนัดประชุม มันมีเวลาของมัน ทำอย่างกับว่าวันนี้พรุ่งนี้แล้วโลกจะแตก ไม่มีเรื่องอื่นเลยหรือ” นายชาดากล่าว
สำหรับกรณีนายพิธาเรื่องถือหุ้นสื่อ กำลังเป็นคำร้องอยู่ในขณะนี้นั้น นายชาดากล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่สามารถตอบได้ และตนเองก็ไม่รู้อะไร ตนไปคาดเดาอะไรไม่ได้ เพราะกฎหมายล็อกสเปกไว้เป๊ะ ไม่ผิดก็คือไม่ผิด จะมีกรรมการกลาง
“วันนี้ประเทศไทย คนไทยมีประเด็นเรื่องกีฬา ที่ไปบอกว่าต้านยาเสพติด สร้างพลานามัย แต่ที่จริงแล้วกีฬาคือทักษะของความเป็นมนุษย์ กีฬามีการแข่งขัน มีคู่ต่อสู้ มีลูกทีมที่คนในทีมต้องให้เกียรติกัน และให้เกียรติคู่ต่อสู้ มีกติกาคือกฎหมายของบ้านเมือง มีกรรมการคือเจ้าหน้าที่ และต้องมีเวลาในการเล่น หมดเวลาในการประกาศผลแพ้ชนะแล้วก็จบ แล้วก็เป็นไปตามครรลอง คนที่ค้าขายบ้านตรงข้ามกัน อาจจะค้าขายแข่งกัน แต่ปิดร้าน 5 โมงเย็นก็มากินข้าวกันได้ นี่คือทักษะความเป็นมนุษย์
“แต่วันนี้สังคมไทยกำลังลืมทักษะการเป็นมนุษย์ เดี๋ยวนี้การแข่งขันกีฬาที่ไหน เพลงกราวกีฬาที่เคยร้องได้ กีฬาๆ เป็นยาวิเศษ ผลของการฝึกตน เดี๋ยวนี้ก็ไม่มี มีแต่จังหวะ มีแต่เสียง ไม่มีเนื้อร้อง ผมจึงบอกว่าสังคมไทยตอนนี้ต้องมีทักษะความเป็นมนุษย์ ก็คือมีกติกาที่เราถืออยู่ มีคัมภีร์ มีกฎหมาย มีเวลาในการเล่น มีเวลาบอกเลิก ตรงนี้ต้องตระหนักให้มากๆ สังคมไทยก็จะน่าอยู่” นายชาดากล่าว
นายชาดากล่าวต่อว่า คนที่เป็นคู่ต่อสู้กับเราก็ไม่ใช่ศัตรูเรา คู่ต่อสู้ทางการกีฬา หรือคู่ต่อสู้ทางการค้า ก็ไม่ใช่ศัตรู มีอะไรก็ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันเรื่องนี้สำคัญที่สุด ต้องให้เกียรติผู้ชนะ และให้เกียรติผู้แพ้ด้วย ที่สำคัญต้องรู้ว่า ประเทศนี้มีกติกามีกฎหมาย ตราบใดที่กรรมการยังไม่เป่านกหวีด อย่ามาบีบสังคม ให้เดินไปตามใจคุณ
“คุณอย่ามาทึกทักกัน อย่าบีบสังคมให้ตามใจคุณ นั่นถือว่าคุณผิดมารยาท ขาดน้ำใจนักกีฬา เช่นเดียวกัน ถ้าคนที่ไม่ยอมรับนายพิธา เขาก็อาจขาดน้ำใจนักกีฬาก็ได้ ถ้าวันนี้ไม่ยอมรับมันไม่ใช่ กติกายังไม่บอก เวลากรรมการยังไม่ตัดสิน” นายชาดากล่าว
นายชาดากล่าวว่า ตนมองว่าขอให้ทุกคนใจดี ข่าวอื่นมีเยอะแยะ เพราะถ้ากลายเป็นเร่งเร้าให้บ้านเมืองวุ่นวายมากกว่า ยังมีคนที่ไม่เข้าใจการเมืองไม่เข้าใจระบบอีกเยอะ แล้วไปมองแค่พวกของตนถูกอย่างเดียว มันก็จะอยู่กันลำบากในบ้านเมือง