09.00 INDEX การรับ ในท่วงทำนอง ก้าวไกล บนฐาน แห่ง 14,233,895 เสียง
หากมองจากท่วงท่าของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เมื่อมี นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายภูมิธรรม เวชยชัย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง นั่งเรียงอยู่ เคียงข้างพร้อมกับประกาศยึดตำแหน่ง “ประธานสภา”
นั่นคือการเคลื่อนทัพ นั่นคือการรุกในทางการเมืองเพื่อชิงความได้เปรียบเหนือกว่าพรรคก้าวไกล
เพราะไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นความหนักแน่นผ่านรูปแห่งคณะกรรมการบริหารพรรค หากแต่ยังมีผนังทองแดงกำแพงเหล็ก อันแข็งแกร่งจากที่ประชุมส.ส.
มีขุนศึกระดับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ นายอดิศร เพียงเกษ รวมถึงส.ส.สอบตกระดับ นายชูวิทย์ พรพิทักษ์พัลลภ นายสมคิด เชื้อคง เป็นดั่งหลังพิง
ถามว่าท่าทีอันมาจากพรรคก้าวไกลเป็นอย่างไร เห็นอาการงันชะงักอย่างแน่นอน นั่นก็คือ การเลื่อนกำหนดวันหารือจากวันที่ 28 มิถุนายนออกไปโดยไม่มีกำหนด
นั่นก็คือ ความเงียบนิ่งไม่ว่าจะเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
ไม่ว่าจะเป็น นายชัยธวัช ตุลาธน เหมือนกับว่ามีการเตรียมพร้อมในลักษณะ “ตั้งรับ” ต่อกระบวนการ “รุก” ของพรรคเพื่อไทย
คำถามก็คือ ทำไมจึงมีชื่อ นายปดิพัทธ์ สันติธาดา ปรากฏ
ความแหลมคมอย่างที่สุดในการปรากฏขึ้นแห่งชื่อของ นายปดิพัทธ์ สันติธาดา มิใช่ในฐานะ ส.ส.พิษณุโลก ผู้ยืนระยะการได้รับ เลือกเข้ามาเป็นหนที่ 2 จากชาวพิษณุโลก
ตรงกันข้าม เป็นการประกาศในสถานะแห่งผู้มีความพร้อมในการเข้าสู่ตำแหน่ง “ประธานสภาผู้แทนราษฎร”
นี่ย่อมเป็นคำตอบ นี่ย่อมเท่ากับเป็นการยืนยันเจตจำนงอันแน่วแน่ของพรรคก้าวไกลว่ายังดำรงความมุ่งหมายในตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรอย่างไม่แปรเปลี่ยน
ไม่เพียงเป็นการยืนยันต่อพรรคเพื่อไทย หากแต่ยังเป็นการยืนยันต่อพันธมิตร 8 พรรคการเมืองที่ขับเคลื่อนภายใต้การลงนามร่วมผ่าน MOU อันทรงความหมาย
ยืนยันในสถานะของพรรคก้าวไกลที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นอันดับ 1 เป็นไปตาม “อาณัติ” ซึ่งได้มาจาก “ประชาชน”
หากมองจากท่วงทำนองในแบบของพรรคก้าวไกล ท่วงทำนองอัน สืบทอดมาจากพรรคอนาคตใหม่ โดยมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รับไม้มาจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
ท่วงทำนองนี้แจ่มชัด ชัดเจน ตรงไปตรงมาอย่างที่สุด
เหตุผลที่หนักแน่นของพรรคก้าวไกลเป็นเหตุผลที่มีพื้นฐานแห่ง 14,233,895 คะแนนเสียง ซึ่งสะท้อนรูปธรรมแห่งความเป็น พรรคอันดับ 1 เป็นไปตามธรรมนิยมแห่งระบอบประชาธิปไตย
นี่ย่อมเท่ากับเป็นการยืนหยัดและยืนยันในหลักการด้วยความซื่อสัตย์ จริงใจและตรงไปตรงมาในแบบ “ก้าวไกล”
ในอีกด้านจึงเท่ากับเปล่งประกาศ “กูไม่กลัวมึง” ออกมา
