ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์
ส.ส.กาญจนบุรี เพื่อไทย
ป้องชาวบ้านถูกเอาเปรียบ
ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ส.ส.กาญจนบุรี เขต 4 พรรคเพื่อไทย (พท.) วัย 62 ปี อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ล้มแชมป์เก่า “ธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ” จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้เป็น ส.ส.สมัยแรก
เกิดที่ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ศิษย์เก่าโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฎิ์ เข้าเรียนโรงเรียนป่าไม้ จ.แพร่ รุ่น 24 และคว้าปริญญาโทการบริหารทรัพยากรป่าไม้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รับราชการครั้งแรกเป็นเจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด จากนั้นย้ายไปปฏิบัติงานในหลายจังหวัด และขยับตำแหน่งขึ้นเรื่อยๆ เคยเป็นผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 พิษณุโลก เป็นผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) ปัตตานี ขึ้นเป็นรองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เมื่อปี 2562 ก่อนเกษียณปี 2564
“ศักดิ์ดา” เผยว่า ในพื้นที่เขต 4 ประชาชนเดือดร้อนมากเรื่องถนนหนทาง ไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บางหมู่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้เลย วันนี้ผมเป็นผู้แทน สิ่งที่ประชาชนขาดแคลน ผมพร้อมจะช่วยประสานงานผลักดันให้ประชาชนได้อยู่อย่างมีความสุข หรือได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างทัดเทียม เข้าถึงได้ในทุกๆ เรื่อง
อีกประเด็นหนึ่งความไม่เท่าเทียมกันของประชาชน เกิดจากการไม่เอาใจใส่หรือการทอดทิ้งของข้าราชการที่ไม่ดูแล หรือแม้แต่ผู้นำอย่างเช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือท้องถิ่น ซึ่งรัฐพยายามกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น แต่วันนี้ท้องถิ่นได้ผลักดันหรือได้ดูแลพี่น้องประชาชนหรือเปล่า ผมก็เป็นตัวแทนคนหนึ่งที่จะเข้ามาเสริมในส่วนนี้ให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์จากนโยบายของรัฐ
นอกจากนี้ ประชาชนอาจถูกเอารัดเอาเปรียบจากส่วนราชการหรือองค์กรใดๆ อย่างเช่น โรงงานปล่อยน้ำเสีย หรือโรงงานขยะ หรือการปศุสัตว์ที่ส่งกลิ่นเหม็น แต่ส่วนราชการในพื้นที่และท้องถิ่นไม่ดูแล ผมพร้อมจะเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชนไม่ให้ถูกเอาเปรียบ
คนส่วนใหญ่มองว่าปัจจุบันการใช้อิทธิพลไม่มีแล้ว ผมต้องตอบดังๆ ว่า ไม่จริง อย่างช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมาผมลงพื้นที่ บางคนต้องไปลงคะแนนให้บางพรรคเพราะกลัวอิทธิพล มีทั้งทหาร ตำรวจ หรือตัวผู้สมัครเอง ผมได้ยินกับหูว่าต้องไปเลือกเบอร์นี้เพราะกลัวถูกขู่ฆ่า กลัวถูกกลั่นแกล้ง จะไม่อนุมัติให้ทำฟาร์มหมู/ฟาร์มไก่
นอกจากนี้ บางพื้นที่ผู้บริหารท้องถิ่นบางคนถูกดำเนินคดีข้อหาทุจริต โดยสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ แต่บางพื้นที่กลับปล่อยให้ผู้บริหารท้องถิ่นทำงานไปก่อน แล้วรอให้ศาลสั่ง หรือปฏิบัติราชการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง สิ่งต่างๆ เหล่านี้ผมขอเตือน ถ้าผมพบเห็นจะจัดการอย่างเต็มที่ หรือประชาชนพบว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น สามารถแจ้งผมได้ เพราะการใช้อำนาจหน้าที่ของข้าราชการจะต้องให้ความเป็นธรรมกับประชาชนอย่างเท่าเทียม
ผมมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยให้ความใส่ใจกับประชาชนในเรื่องความยุติธรรมมากขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องประสานงาน การพัฒนา หรือเรื่องสิ่งแวดล้อมต่างๆ เพราะวันนี้พรรคเพื่อไทยเราพูดคุยกันเกี่ยวกับหลายๆ ด้าน ที่จะให้ประชาชนได้อยู่อย่างมีความสุขและทัดเทียมกัน
