วิโรจน์ มองปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิด ทำตำรวจดีท้อแท้ แนะสังคมอย่าเหมารวม เชื่อคนไม่ดีมีน้อยกว่า

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่สัปปายะสภาสถาน รัฐสภา แยกเกียกกาย เขตดุสิต กรุงเทพฯ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสินการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 นัดแรก เพื่อเลือกตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร

นายวิโรจน์กล่าวถึงประเด็นการปฏิรูปตำรวจว่า สุดท้ายแล้วตำรวจต้องเป็นของประชาชนและตำรวจต้องมีมาตรฐานในการดำเนินชีวิตอย่างมีจริยธรรมที่เหนือกว่าประชาชน

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงประเด็นล่าสุดที่ตำรวจเมาแล้วขับ มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ

นายวิโรจน์กล่าวว่า ตามกฎหมายก็ต้องรับโทษ ประชาชนที่มีผลกระทบก็ต้องได้รับการเยียวยา และคงต้องขันนอตกัน แต่อย่าไปเหมารวม

“ตำรวจที่ทำไม่ถูกต้อง ก็ต้องได้รับโทษทางวินัย ทางอาญา และความรับผิดชอบแพ่ง เรื่องที่สำคัญที่สุดที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องจัดการ คือการซื้อขายตำแหน่ง เพราะคือต้นตอของวงจรอุบาทว์ และความอัปยศของตำรวจทั้งหมด ในเมื่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงซื้อขายตำแหน่งมา การได้รับการยอมรับจากผู้ใต้บังคับบัญชาก็ไม่มีอยู่แล้ว ปรากฏว่าเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาไปแจกเป้าส่วยอีก คุณคิดว่าผู้ใต้บังคับบัญชาจะรู้สึกอย่างไร หัวใจแหลกเหลว ครั้นว่าไม่ทำตาม ก็ถูกกลั่นแกล้ง สุดท้ายก็ต้องตามน้ำโดยที่ไม่มีความเต็มใจถ้าแก้ตรงนี้ได้ ปัญหาอื่นๆ จะคลี่คลาย” นายวิโรจน์กล่าว

ADVERTISMENT

นายวิโรจน์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ตำรวจดี มีเยอะกว่าตำรวจที่ไม่ดี ตนได้รับกำลังใจจากพี่น้องตำรวจอย่างมาก ว่าทนกับระบบแบบนี้ไม่ได้

“นึกภาพว่า ทุกคนคาดหวังผู้บังคับบัญชาที่ดี แล้วทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนผู้บังคับบัญชา ตำรวจชั้นผู้น้อยหรือชั้นประทวน เขามีความหวังทุกครั้ง แต่นับวัน 9 ปีที่ผ่านมายิ่งได้ผู้บังคับบัญชาที่เขารู้สึกผิดหวังไปเรื่อยๆ จนทำงานแบบซังกะตาย หลายคนลองดูสิว่า มีนายร้อยตำรวจที่เข้ามาทำงานไม่นานก็ทยอยกันลาออก มันสะท้อนถึงความสิ้นหวัง นี่ยังไม่กล่าวถึงตำรวจชั้นประทวนที่ยื่นหนังสือขอลาออก ไม่เคยมีปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อนกับวงการตำรวจ ตำรวจดีท้อแท้หมดอาลัยตายอยาก รู้สึกว่าไม่ภาคภูมิใจในการประกอบอาชีพ” นายวิโรจน์กล่าว