เลขา รทสช.ยัน ไม่เสนอชื่อ “พีระพันธุ์” แข่งนายกฯ กับ “พิธา” รับมีแค่ 36 เสียง ไม่หนุนตั้ง รบ.เสียงข้างน้อย
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงถึงจุดยืนทางการเมืองของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โดยระบุว่า “ขอยืนยันว่าการที่ รทสช. ส่งคุณวิทยา แก้วภราดัย สู้กับก้าวไกลในการโหวตรองประธานสภา เป็นการสู้เพื่อแสดงจุดยืน ไม่นำมาสู่การตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยอย่างแน่นอน
“การโหวตประธานสภาและนายกรัฐมนตรีมีกลไกที่แตกต่างกันครับ การโหวตประธานสภาจะใช้เสียงส่วนมากในที่ประชุม ใครที่ถูกเสนอชื่อแล้วได้คะแนนมากสุดจะได้เป็น หรือหากไม่มีคู่แข่งก็ได้เป็นเลยโดยที่ไม่ต้องโหวตแข่ง ต่างจากการโหวตนายกฯ ที่ต้องได้คะแนนเสียงไม่ตํ่ากว่ากึ่งหนึ่ง (หรือ 375) ของรัฐสภา หากเสนอชื่อมาคนเดียว ก็ไม่ได้เป็น จะได้เป็นก็ต่อเมื่อข้ามรั้ว 375 เสียงไปได้เท่านั้น” นายเอกนัฏระบุ
นายเอกนัฏกล่าวว่า ดังนั้นในการโหวตรองประธานสภา หากเราไม่ส่งคุณวิทยาไปแข่ง ก็เท่ากับเราสนับสนุนให้แคนดิเดตของพรรคก้าวไกลเป็นรองประธานสภาโดยอัตโนมัติ เราจึงส่งแข่ง เพื่อแสดงจุดยืนให้ชัด ถึงแม้ทราบดีอยู่แล้วว่าแทบจะไม่มีโอกาสชนะเลยก็ตาม
เลขาธิการพรรค รทสช. ระบุด้วยว่า ส่วนการโหวตนายกรัฐมนตรีที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มีกระแสข่าวว่า รทสช.จะส่งคุณพีระพันธุ์แข่งกับคุณพิธานั้น ไม่เป็นความจริงครับ
“ผมเองอยากเห็นคุณพีระพันธุ์เป็นนายกฯ และเชื่อว่าท่านจะเป็นนายกฯที่ดีเพราะท่านเป็นนักการเมืองนํ้าดี สุจริต เที่ยงธรรม แต่ต้องยอมรับว่าพรรคเรามีเพียง 36 เสียง ไม่พอที่จะไปเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และคุณพีระพันธุ์กับผม ก็ไม่เคยมีความคิด และไม่สนับสนุนการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภาอย่างเด็ดขาด ถึงจะตั้งไปก็อยู่ไม่ได้ครับ” นายเอกนัฏกล่าว
นายเอกนัฏกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม การแสดงจุดยืนว่า ไม่รับนายกฯหรือรัฐบาลที่จะแก้หรือยกเลิก ม.112 สามารถทำได้ด้วยวิธีไม่โหวต โหวตไม่รับ หรืองดออกเสียงครับ ไม่ต้องส่งแข่งก็สู้ได้ (ต่างจากรองประธานสภา)
การไม่ส่ง ไม่โหวต หรืองดออกเสียง ด้วยกลไกการโหวตที่ไม่เหมือนกัน จึงมีผลไม่เหมือนกัน
มีคนพยายามกุข่าวลือ สร้างข่าวเพื่อให้การต่อสู้ของเรานั้นสูญเสียความชอบธรรม เข้าใจผิดคิดว่าเป็นขบวนการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
“ผมขอปฏิเสธชัดๆ ไปเลยว่า เราไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อยหากจะต้องเป็นฝ่ายค้านก็เป็นครับ คุณพีระพันธุ์ ผม และเพื่อน ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ติดใจ การจะได้เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ไม่สำคัญไปกว่าการรักษาจุดยืนของเรา เราจะทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ สร้างความมั่นคงให้ชาติ สร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ สร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม ผดุงความยุติธรรม ให้ความเป็นธรรม” เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าว
“แต่จะไม่แก้ ม.112 ไม่เปลี่ยนวันชาติ ไม่แบ่งแยกดินแดน เราจะผลักดันการเปลี่ยนแปลงด้วยการเสริมเติมต่อจากสิ่งดีๆ ที่มีอยู่แล้วในประเทศของเราครับ”