‘อมรัตน์’ ขอตำรวจดูแลผู้ชุมนุม แยกปลาออกจากน้ำ ยัน ปชช.แค่ติดตามสถานการณ์ จี้ ส.ว.พา ปท.ออกจากปลัก
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่รัฐสภา น.ส.อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีการชุมนุมเพื่อติดตามการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันนี้ มีความกังวลหรือไม่ ในการดูแลผู้ชุมนุมด้านนอกอย่างไร ว่า วันนี้ดูแลในคณะประสาน เนื่องจากเป็นคณะทำงานของรองประธานสภาคนที่ 1 หรือนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรค ก.ก. ดูแลประสานในส่วนผู้ชุมนุมที่มาติดตามการประชุมสภา อย่าเรียกว่าม็อบ อาจจะมีทั้งคนเชียร์และคนไม่เชียร์ เป็นคนที่อยากมาติดตามการประชุมในสถานที่จริง ไม่อยากดูผ่านทีวี ซึ่งได้ประสานในเรื่องการอำนวยความสะดวกไปแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่มีผู้ชุมนุมคนละขั้ว มาชุมนุมในบริเวณใกล้เคียงกัน มีอะไรจะฝากถึงทั้งสองฝ่ายหรือไม่ น.ส.อมรัตน์กล่าวว่า เป็นภารกิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้เตรียมมาตรการไว้เรียบร้อยแล้ว และได้พบกับภาพตู้คอนเทนเนอร์ที่ได้ตามมาหลอกหลอนอีกครั้ง
“ต้องแยกปลาออกจากน้ำ อาจจะมีบางกลุ่มที่เข้ามาปั่นป่วน ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยมากๆ ผู้ที่มาติดตามการประชุม คงมาอย่างสงบสันติ อยากแค่มาเป็นกองเชียร์ เจ้าหน้าที่ควรใช้วิจารณญาณ ไม่เหมารวม ถ้าใครทำให้ไม่สงบ ก็จับแยกเป็นบุคคลไป” น.ส.อมรัตน์กล่าว
มีการประเมินไว้หรือไม่ว่า หากการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค ก.ก. ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี กรณีนี้อาจส่งผลทำให้ผู้ชุมนุมมีอารมณ์พลุ่งพล่านมากขึ้นหรือไม่ น.ส.อมรัตน์กล่าวว่า เหมือนกันเราทุกคนน่าจะคิดเหมือนกัน ฉันทามติจากการเลือกตั้งแล้ว ซึ่งผลการเลือกตั้งได้แสดงเจตจำนงออกมาชัดเจนที่สุด มีคนออกมาใช้สิทธิมากที่สุด ถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้น อย่าไปบิดเบือนเจตนารมณ์ เพราะคนที่ไม่มีความสุขก็จะออกมาปกป้องเป็นธรรมดา
“ซึ่งนิด้าโพลออกเปิดเผยผลสำรวจออกมาแล้วว่า คน 7 เปอร์เซ็นต์ ของคนที่เลือกฝ่ายประชาธิปไตย พร้อมที่จะออกมาแน่ๆ ซึ่งหากรวมทั้งประเทศก็เป็นล้านคน เฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯก็เป็นแสนคน อย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นเลย ถ้าอยากให้ประเทศเดินหน้าได้ จะชอบหรือไม่ชอบนายพิธา ก็เอาตามเสียงที่ประชาชนเลือกมาแล้ว หากไม่เห็นด้วยในเรื่องอะไรก็ไปอภิปรายกันในสภา”
เมื่อถามว่า มีความหวังกี่เปอร์เซ็นต์ ในการโหวตนายกรัฐมนตรีในวันนี้ น.ส.อมรัตน์กล่าวว่า ตามที่พรรคประเมิน น่าจะโหวตครั้งเดียวผ่าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ทราบว่า การเมืองไทยมันไม่มีอะไรแน่นอน ถ้าสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มีโอกาสเป็นตัวของตัวเอง ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าในกรณีคิดเผื่อเหลือเผื่อขาด หาก ส.ว.ไม่ได้มีโอกาสเป็นตัวของตัวเอง
“อยากเรียกร้องไปยัง ส.ว.ทุกท่าน เดินหน้าสู่อนาคต เราจมอยู่ในปลักความมืดมิดมา 9 ปี 10 ปีแล้ว เราจะต้องก้าวข้ามไป ไม่มีวันไหนที่เราจะไม่แสดงออก และก้าวข้ามอย่างราบรื่นที่สุด เท่ากับการแสดงออก ในการโหวตเลือกนายพิธาเป็นนายกฯในวันนี้” น.ส.อมรัตน์กล่าว