บทนำมติชน : วางมือการเมือง
พรรครวมไทยสร้างชาติโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอวางมือทางการเมือง และลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยเนื้อหาเริ่มด้วยการขอขอบคุณประชาชนที่สนับสนุนพรรครวมไทยสร้างชาติในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จนได้ ส.ส. 23 คน ได้รับเสียงเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ 4,766,408 เสียง จากผู้ใช้สิทธิ 38,057,074 คน หรือร้อยละ 12.52 สูงเป็นอันดับสามของประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้ทำงานอย่างมุ่งมั่นทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง เพื่อปกป้องรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเพื่อประโยชน์ของประชาชนอันเป็นที่รักยิ่ง และสิ่งเหล่านี้กำลังผลิดอกออกผลให้กับประเทศชาติโดยส่วนรวม ผมได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดในการที่จะทำให้ประเทศชาติแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆ ด้าน มีเสถียรภาพ มีความสงบ และฟันฝ่าอุปสรรคทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนมีความสำเร็จก้าวหน้าเป็นรูปธรรมหลายๆ ด้าน
สุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ประกาศวางมือทางการเมือง ด้วยการลาออกจากสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และขอให้หัวหน้าพรรค กรรมการบริหาร และสมาชิกพรรคได้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองด้วยอุดมการณ์ที่แข็งแกร่ง ปกป้องรักษาสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และดูแลพี่น้องประชาชนชาวไทยต่อไป และขอให้พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจสนับสนุนการทำงานของพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไปด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ เติบโตในกองทัพ และประสบความสำเร็จในชีวิตราชการกระทั่งได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก และก้าวเข้าสู่การเมืองด้วยการนำคณะนายทหารยึดอำนาจรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บริหารประเทศในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2557 จวบจนถึงขณะนี้แม้ว่าจะประกาศวางมือทางการเมืองแต่ก็ยังต้องรักษาการนายกรัฐมนตรีต่อไปจนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ผลการดำเนินการของ พล.อ.ประยุทธ์ในการบริหารประเทศ เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาของประชาชนทุกคน และสะท้อนออกมาด้วยผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม
การประกาศวางมือทางการเมืองเท่ากับเป็นการปิดสวิตช์ตัวเองทางการเมือง คงเหลือไว้แต่สิ่งที่ได้ทำมาซึ่งมีการบันทึกไว้ในรูปแบบต่างๆ และบันทึกเหล่านั้นจะถ่ายทอดต่อไปรุ่นต่อรุ่นเพื่อให้มีการศึกษา ถือเป็นตัวอย่างให้บุคคลอื่นๆ ที่มีโอกาสได้เข้ามาทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติได้ตระหนักว่า เมื่อมีเวลาได้ทำหน้าที่ต้องทำให้เต็มที่ และดีที่สุด เพื่อให้ตัวเองภาคภูมิใจในผลงานที่ทำให้ชาติบ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง ไม่ต้องมาเสียใจกับผลงานที่ทำให้ชาติเสื่อมทรุดกลายเป็นภาระแก่คนรุ่นหลัง