ก้าวไกลยัน 312 เสียงเหนียวแน่น ชี้ สู้ หลังพิงประชาชน เดินหน้า เสนอพิธาโหวตรอบสอง ปัดถูกซื้องูเห่า

ก้าวไกลยัน 312 เสียงเหนียวแน่น ชี้ สู้ หลังพิงประชาชน เดินหน้า เสนอพิธาโหวตรอบสอง

‘ก้าวไกล’ ยัน 8 พรรคร่วม รบ.เหนียวแน่น ชี้หากพลิกขั้วเป็นฝ่ายค้านก็พลิกทั้งก้อน มั่นใจไม่มีงูเห่า ยกบทเรียนสอบตกยกแผง เตือน รบ.เสียงข้างน้อยไปยาก

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.และรองเลขาธิการพรรค ก.ก. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะมีการประชุมสภาเพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ มีการเตรียมความพร้อมว่า วันที่ 19 กรกฎาคมนี้ เราจะมีการอภิปรายอย่างไร เชิญชวนให้มีเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้น และการเจรจาต่อรองจาก ส.ว.และ ส.ส.ในพรรคต่างๆ ที่ไม่ได้โหวตให้ก็จะมีการพูดคุยในรัฐสภาว่ามีความคิดเห็นอย่างไร สิ่งที่เราต้องการอยากจะทำนั้นคืออะไร ถ้ามีความเข้าใจตรงกันแล้วก็อยากให้ผ่านเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ เพราะประชาชนรอคอยความช่วยเหลือจากรัฐบาลชุดหน้า ที่จะมานำพาความกินดีอยู่ดีและอนาคตของประชาชนให้ทุกคนได้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้

เมื่อถามว่า จะมีการถกกันในรัฐสภาว่าอาจจะมีคนหยิบยกข้อบังคับประชุมรัฐสภาในข้อ 41 ว่าเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรค ก.ก.ได้อีกหรือไม่ นายณัฐชากล่าวว่า ข้อบังคับของที่ประชุมรัฐสภาในหมวดการเสนอชื่อนายกฯในการเสนอญัตตินั้นคนละหมวด หากเป็นเรื่องเดียวกันก็ต้องเป็นหมวดเดียวกันไปแล้ว ในการโหวตนายกฯนั้นดูอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าสามารถเสนอได้ ไม่เช่นนั้นการเสนอชื่อนายกฯครั้งถัดไปก็จะไม่สามารถเสนอได้ นี่คือการเสนอเรื่องนายกฯ ไม่ใช่การเสนอนายพิธา ฉะนั้น ในสภาสมาชิกผู้แทนราษฎรมีมติในการเห็นชอบในการเสนอ โดยเสียงรับรองของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้นสามารถเสนอชื่อนายกฯให้กับรัฐสภาได้ให้มีเสียงสนับสนุนต่อไป

Advertisement

เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรค ก.ก.และพรรคเพื่อไทย (พท.) มีการถูกซื้องูเห่าจากขั้วรัฐบาลเดิม นายณัฐชากล่าวว่า เป็นการออกมาพูดของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค พท. มีการซื้องูเห่ากว่า 50 ตัว จากพรรค พท.และพรรค ก.ก. ตนไม่ทราบว่าได้ข้อมูลมาจากไหน ขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่าในส่วนของพรรค ก.ก. 151 คน เราได้มีการพูดคุยกับ ส.ส.ของพรรคทั้งหมดแล้วว่าไม่มีการติดต่อพูดคุยอย่างแน่นอน และตนเชื่อว่าคนที่เข้ามาเป็นตัวแทนของประชาชนในนามพรรค ก.ก.ได้เห็นแล้วว่างูเห่าในอดีตเกิดอะไรขึ้นบ้าง คนที่เข้ามาเป็น ส.ส.ในครั้งนี้ได้เห็นบทลงโทษ ว่าประชาชนลงโทษงูเห่าอย่างไร และในพรรค ก.ก.เรามีหลักการในเรื่องนี้ สมาชิกทุกคนได้ผ่านกระบวนการคัดกรองอย่างเข้มข้น ผ่านด่านการเลือกตั้งจากประชาชนมาแล้ว ต้องสอบถามไปยังผู้ที่ออกมาให้ข่าว หากมีข้อมูลเพิ่มเติมต้องชี้แจงให้กับประชาชนรับทราบจะได้ตามกันต่อว่าเป็นใคร

นายณัฐชากล่าวต่อว่า ส่วนจะกระทบความเชื่อมั่นต่อพรรคหรือไม่ เพราะในพรรคเองก็มี ส.ส.หน้าใหม่เข้ามา ตรงนี้อาจจะเป็นคนหน้าใหม่ในฐานะ ส.ส. แต่เป็นคนหน้าเก่าในการทำงาน เพราะหลายคนทำงานมาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ อาจจะไม่ได้เป็นผู้สมัครในครั้งที่แล้ว แต่เป็นคณะทำงาน เป็นผู้ร่วมอุดมการณ์มาตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ ครั้งนี้จึงมาลงเลือกตั้ง หากมีความผิดจริงเรายังไม่ไปถึงกระบวนการคาดโทษ แต่โทษต่างๆ เราก็มีให้เห็นชัดเจนแล้ว

เมื่อถามว่า หากการโหวตนายกฯครั้งที่ 2 ไม่ผ่านชัดเจนว่าไม่สามารถไปต่อครั้งที่ 3 ได้ พรรค ก.ก.มีท่าทีอย่างไร นายณัฐชากล่าวว่า พรรค ก.ก.ได้ออกไทม์ไลน์ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการโหวตครั้งที่ 2 ที่เสนอชื่อนายพิธา หากเสียงสนับสนุนผ่านเราก็ได้นายพิธาเป็นนายกฯ หากเสียงสนับสนุนไม่ผ่านก็จะมี 2 ทาง เสียงสนับสนุนไม่ผ่าน แต่มีเสียงเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือมีทั้ง ส.ว.และ ส.ส.เห็นด้วย ที่ยังไม่เคยโหวตให้ในครั้งที่ผ่านมาแล้วเข้าใกล้ 376 เสียงมากที่สุด เราก็จะเดินหน้าโหวตต่อในครั้งที่ 3 แสดงให้เห็นว่าการปรับความเข้าใจกับเพื่อนสมาชิกประสบความสำเร็จ หากเสียงสนับสนุนเท่าเดิม หรือยังน้อยอยู่ เราก็จะเดินหน้าเสนอแก้ไขมาตรา 272 ต่อไป ทั้งหมดเป็นไทม์ไลน์ที่เราแสดงให้ประชาชนได้เห็นอย่างชัดเจน ที่ผ่านมาก็ควรจะเป็นเช่นนี้ นั่นคือการสนับสนุนพรรคอันดับ 1 หากครั้งที่ 1 ไม่ผ่านก็สนับสนุนพรรคอันดับ 2

Advertisement

เมื่อถามว่าหากการโหวตนายกฯครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ยังไม่ได้นายพิธาเป็นนายกฯ นายณัฐชากล่าวว่า นายพิธาได้ชี้แจงกับประชาชนแล้วในเรื่องของการทำงานว่าเราจะสู้ในสองสมรภูมิ สมรภูมิแรก คือการโหวตนายกฯครั้งที่ 2 ถ้าไม่ผ่านในสมรภูมิการโหวตนายกฯครั้งที่ 2 เราก็จะสู้ในมาตรา 272 ถ้ามาตรา 272 ไม่ผ่าน ก็จะเป็นลำดับถัดไปที่ควรจะเกิดขึ้น ส่วนกรณีที่พรรคร่วมเริ่มไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรา 272 นั้น เป็นการเริ่มต้นในการพูดคุยกัน ส่วนพรรคร่วมจะเห็นว่าอย่างไรต้องมีการพูดคุยในการประชุมต่อไป ส่วนแนวทางในการแก้ไขมาตรา 272 เชื่อว่าพรรคร่วมปัจจุบันเคยเห็นพ้องต้องกันมาแล้วว่าเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหา ส่วนใครที่เห็นเป็นปัญหาแล้วในอนาคตจะไม่โหวตให้ ก็ต้องตอบคำถามกับสังคมให้ชัดเจนว่าเพราะอะไร ทางพรรค ก.ก.ก็ได้กล่าวมาตลอดว่ามาตรา 272 มีปัญหา พอมาวันนี้เราใช้กลไกรัฐสภาในการโหวตนายกฯแล้วมีปัญหา เราก็เสนอแก้

เมื่อถามว่า การพูดคุยเรื่องแก้ไขมาตรา 272 ยังไม่ลงตัว รวมไปถึงแกนนำพรรค พท.ยังไม่เห็นด้วยในการยื่นแก้ไขมาตรา 272 มีการตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นสัญญาณของการแตกหักของพรรคร่วมหรือไม่ นายณัฐชากล่าวว่า การแก้ไขมาตรา 272 เกิดขึ้นหลังการโหวตนายกฯครั้งที่ 2 ณ วันนี้อยากให้ทุกพรรคการเมือง พรรคร่วม 8 พรรค ผนึกกำลังกันอย่างแข็งขันตามเสียงของประชาชน ได้โฟกัสในการโหวตนายกฯครั้งที่ 2 ก่อน เพราะมาตรา 272 เป็นเรื่องหลังการโหวตนายกฯครั้งที่ 2 จึงอยากให้พรรคร่วมช่วยกันหาหนทางในการที่จะดึงเสียงสนับสนุนทั้ง 2 สภาให้ผ่านการโหวตครั้งที่ 2 แล้วจะไม่มีการพูดคุยเรื่องอื่นๆ ต่อ เราก็จะได้เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล จัดสรรโควต้าคณะรัฐมนตรีต่อไป และแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน จึงอยากให้โฟกัสการโหวตนายกฯครั้งที่ 2 ให้ผ่านไปได้

ส่วนที่มีการระบุว่าพรรค ก.ก.สนใจแต่วาระการเมือง แต่ไม่สนใจปัญหาปากท้องของประชาชน นายณัฐชากล่าวว่า วันนี้เสียงของประชาชนสำคัญ วันนี้เพิ่งจะผ่านการโหวตไปครั้งแรก เสียง ส.ว.โหวตมา 13 เสียง มีเสียงพรรคร่วมผนึกกำลังกันอย่างเข้มแข็ง ถ้ามีการผนึกกำลังอย่างเข้มแข็ง ต่อไปการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยจะเป็นไปไม่ได้ และการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะพรรค ก.ก.อยากผลักดันประเด็นต่างๆ แต่เป็นเพียงเพราะว่าเราหลังพิงพี่น้องประชาชน เราถอยไม่รู้จะถอยอย่างไรแล้ว ซึ่งทางพรรคร่วมได้มีการลงในเอ็มโอยูว่าเราจะผลักดันนายพิธาเป็นนายกฯจนสุดความสามารถ

เมื่อถามถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย จะมีการไปพูดคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้โหวตนายพิธา หากมีโหวตให้จริงจะมีเงื่อนไขอะไรที่พรรค ก.ก.จะรับได้หรือไม่ได้ นายณัฐชากล่าวว่า ยังไม่ทราบเงื่อนไขว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ไปพูดคุยภายใต้เงื่อนไขอะไรบ้าง หากมีการพูดคุยจริง อยากให้นำข้อเสนอและเงื่อนไขมาพูดคุยในที่ประชุม 8 พรรคร่วม

เมื่อถามว่า ทางการเมืองในการโหวตนายกฯ มองว่าอาจจะมีการพลิกขั้วเปลี่ยนข้าง นายณัฐชากล่าวว่า พรรคร่วมผนึกกำลังกัน ไม่มีทางพลิกไปข้างไหนได้ เพราะ 188 คือเสียงข้างน้อยในสภา รัฐบาลอยู่ไม่ได้ และเสียง ส.ว.หลังจากโหวตก็มีคนออกมาประกาศตัวว่าจะงดออกเสียงตลอดชีวิต ซึ่งไม่ได้หมายความว่าคนที่งดออกเสียงจะโหวตให้ 188 เสียงข้างน้อย เชื่อว่าในส่วนของ 188 คน ที่รวมกลุ่มกันอยู่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะผลักดันใครเป็นนายกฯ ยืนยันว่าไม่มีสัญญาณสลับขั้ว โดย 8 พรรคจับมือกันเข้มแข็ง สลับขั้วไม่ได้อย่างแน่นอน

ส่วนที่มีการประเมินว่าพรรค ก.ก.จะพลิกไปเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายณัฐชากล่าวว่า เรายังจับมือกันทั้ง 312 เสียง หากจะพลิกก็พลิกทั้งก้อนเพราะเราจับมือกันแน่น จะพลิกแค่พรรค ก.ก.​พรรคเดียวเป็นไปไม่ได้ หากพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลปัจจุบันจับมือกันแน่น ผนึกกำลังกันอย่างเข้มแข็งด้วยเสียงของประชาชน อย่างไรก็ตาม เป็นฝ่ายค้านทั้ง 312 เสียงไม่ได้เลย ต่อให้มีพรรคใดพรรคหนึ่งในพรรคร่วมไปร่วมกับขั้วรัฐบาลเดิม แต่พรรค ก.ก.และพรรค พท. รวม 252 เสียง จับมือกันแน่วแน่ตามเสียงประชาชน เชื่อว่าไม่สามารถพลิกขั้วเปลี่ยนได้ สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นคือรัฐบาลประชาธิปไตย ยืนยันไม่มีการปล่อยมือกันอย่างแน่นอน

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image