ส.ว.ลั่นไม่ทนฟ้องดะ 2 ทนาย-เกรียนคีย์บอร์ดบูลลี่ โวยทัวร์ลงหนัก ปมโหวตนายกฯ

ข่าวหน้า 1 – ส.ว.ลั่นไม่ทนฟ้องดะ 2 ทนาย-เกรียนคีย์บอร์ด เอาคืนถูกบูลลี่-โวยทัวร์ลงหนักปมโหวตนายกฯ

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่รัฐสภา กลุ่มสมาชิกวุฒิสภา ประกอบด้วย นายเสรี สุวรรณภานนท์ นายสมชาย แสวงการ นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ และกลุ่ม ส.ว. ได้เปิดแถลงข่าวกรณี ส.ว.ถูกคุกคาม

นายเสรีกล่าวว่า มีการกระทำข่มขู่ คุกคามจากคนบางกลุ่ม ทำให้เห็นว่าสิ่งที่สมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติไม่เห็นชอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นกระบวนการในรัฐสภาในทางกฎหมาย ปรากฏว่าพฤติกรรมของคนแสดงออกมาซึ่งความเกลียดชัง ความโกรธ กระทำต่อ ส.ว.จำนวนมาก กระทบไปถึงสิทธิส่วนบุคคล คนในครอบครัว รวมถึงกิจการงานที่ทำอยู่

“เป็นพฤติกรรมแสดงออกถึงความก้าวร้าว ทำให้คนเกิดความเกรงกลัว จนไปถึงใช้คำพูดผิดกฎหมายต่อสถาบัน ทำให้เห็นว่าสังคมเราอ่อนแอ” นายเสรีกล่าว

Advertisement

นายเสรีกล่าวว่า ถ้าใครเป็นลูกหลานของ ส.ว.เห็นต่าง ก็จะกดดันเด็กเหล่านี้ไม่ให้อยู่กลุ่มตัวเอง ไม่ให้ทำกิจกรรมด้วย สิ่งเหล่านี้ลามไปทั่วทุกพื้นที่ ถึงเวลาแล้วที่คนทำเรื่องเหล่านี้และมีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังคอยยุยงเด็ก อ้างความเสรีภาพ เราจะยอมปล่อยให้เรื่องเหล่านี้อยู่ในสังคมไทยได้อย่างไร ไม่มีใครกล้าปกป้องสังคม ถึงเวลาที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่อไปนี้ ส.ว.ไม่ทนแล้ว ทำลายชาติ ทำลายสังคม ทำลายวิถีชีวิตที่ดีงามของประเทศไทย เราถูกด่าทออยู่ตลอดเวลา แม้นักกฎหมายเองยังให้สื่อเหล่านี้ว่าร้าย ส.ว. เช้านี้ยื่นฟ้อง 2 คดี มีทนายความถูกฟ้อง 2 คนคือ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ และนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น แถลงข่าวให้ร้าย ฟ้องก่อนเพื่อให้สังคมตื่นว่าเสรีภาพเป็นของทุกคน ต่อไปจะดำเนินคดีคนกล่าวให้ร้าย ส.ว.ในโซเชียล อีกส่วนหนึ่งคือการแจ้งความดำเนินคดีจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดี รวมถึงปกป้องสถาบัน

นายเสรีกล่าวว่า ยกตัวอย่างกรณีคุกคามกิจการของ ส.ว. ตลาดเสรี มีข้อความเข้ามาทำร้ายแม่ค้าในตลาด คนที่ลงคะแนนให้พรรคก้าวไกลส่วนมากก็คือแม่ค้า ต่อมากิจการหมอเส็ง คนของหมอเส็งเลือกพรรคก้าวไกลเกินกว่าครึ่ง ทำให้เห็นว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดนั้นคือการลิดรอนการทำหน้าที่ของ ส.ว. ไม่แยกการเมืองกับเรื่องส่วนตัว ผลักดันให้คุณเป็นนายกรัฐมนตรี จะดำเนินคดีกับทุกคนที่คุกคามไม่มีการละเว้น

นายเสรีกล่าวว่า การเสนอชื่อนายกฯรอบที่ 2 วันที่ 19 กรกฎาคมนี้ ในวาระดังกล่าว ถ้าเสนอชื่อนายพิธามาแล้วจะพิจารณาอย่างไร ในส่วนของการเสนอชื่อซ้ำรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ระบุไว้ว่า หากมีการพิจารณาไม่เห็นชอบไปแล้ว การเสนอญัตตินั้นอีกรอบจะเสนอไม่ได้แล้ว ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 ส่วนจะเห็นเป็นอย่างอื่นอย่างไร คงต้องอภิปรายกันในสภา ส่วนตัวเห็นว่าต้องทำตามมาตรา 88 คือพรรคการเมืองที่เสนอบัญชีรายชื่อของพรรคมาแล้วต้องเสนอให้ครบถ้วน ถ้าไม่มีทางออกที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีได้คือต้องใช้แนวทางสอง คือใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภา แต่ในชั้นต้นให้แต่ละพรรคการเมืองเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีตามแต่ละพรรคที่ลงกับ กกต.ไว้แล้ว

Advertisement

ด้านนายสมชาย แสวงการ กล่าวว่า ฝากเตือนประชาชนหลงผิดตามการปลุกระดมของนักการเมือง จะดำเนินคดีในทุกช่องทาง ไม่ปล่อยเรื่องนี้ให้ผิดต่อไป รวมถึงจะฟ้องดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญาด้วย ถูกดำเนินคดีแน่นอน 100% ราคาแพงที่ต้องจ่ายที่สร้างภัยคุกคามต่อครอบครัวผู้อื่น

นายสมชายกล่าวถึงกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับการเสนอชื่อ หากวันที่ 19 กรกฎาคม ยังไม่ได้รับเสียงเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาจะยอมเปิดทางให้พรรคเพื่อไทย (พท.) มาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทนว่า เป็นเรื่องของ 8 พรรคร่วมจะไปเจรจากัน เนื่องจากพรรค ก.ก.เสนอชื่อนายพิธาเพียงคนเดียว หากมีตัวเลือกอื่นก็ไม่ขัดข้อง ส่วนจะเปลี่ยนขั้วสลับข้างก็รับได้ แต่จะอภิปรายซักถามแคนดิเดตนายกฯแทนประชาชนเหมือนเดิมว่ามีนโยบายอย่างไรบ้าง แต่ในทางกฎหมายมองว่าไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธาซ้ำได้อีกแล้ว เนื่องจากเป็นญัตติที่ตกไปแล้ว

เมื่อถามว่า หากมีการสลับพรรค พท.มาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ยังมีร่วมอยู่ ส.ว.จะเห็นชอบหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็ตาม ต้องดูว่าจะเสนอใครมาเป็นแคนดิเดต หากจะเปลี่ยนแปลงขึ้นจริงควรมีเวลาให้ ส.ว. ไม่ใช่ทำอย่างเร่งรีบ เพราะ ส.ว.ก็มีภารกิจต้องทำ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image