วิโรจน์ ยัน ไม่มีเหตุมุทะลุ-ตั้งเงื่อนไขทำเพื่อนลำบากใจ มุ่งประคอง 8 พรรคเข้าเส้นชัยตั้งรบ.

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ ‘มติชนทีวี’ ในตอนหนึ่งถึงการคาดการณ์สถานการณ์การโหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 กรกฎาคม

นายวิโรจน์กล่าวว่า ตนเชื่อว่า ส.ว.หลายท่าน ก็มีการพูดคุยกับ ส.ว. 13 ท่านที่เห็นชอบให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์เป็นนายกฯ ซึ่งต้องขอบคุณอย่างมาก และได้รับความชื่นชมจากประชาชนอย่างล้นหลาม และปฏิกิริยาที่แซ่ซ้องสรรเสริญ ส.ว.ทั้ง 13 ท่าน น่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนเชิงบวกให้ ส.ว.ที่ยังลังเลใจ หลายท่านมีอุปสรรคขัดขวางไม่ให้มาลงมติ ในวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา อาจมี ส.ว.จำนวนหนึ่งพร้อมลงมติ โหวตให้นายพิธาเพิ่มเติม

นายวิโรจน์กล่าวต่อไปว่า มี ส.ว. 3 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์แน่นอน โดยไม่ได้โหวตเพราะเชียร์นายพิธา และพรรคก้าวไกล แต่โหวตตามเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน และโหวตเพื่อรักษาหลักการ เพื่อพิทักษ์รักษาระบอบประชาธิปไตย นั่นคือ ส.ว.ทั้ง 13 ท่าน

กลุ่มที่ 2 ไม่โหวตให้นายพิธา ไม่โหวตให้พรรคก้าวไกลแน่นอน ลงมติ ‘ไม่เห็นชอบ’ ชัดเจน ไม่เปลี่ยน

Advertisement

กลุ่มที่ 3 งดออกเสียง ที่เป็นก้อนใหญ่ แบ่งได้ 2 กลุ่มย่อย คือ ยังลังเลใจ รวมถึง 10 ท่านที่มา แต่ไม่ได้ลงมติด้วย และใจอยากโหวตไม่เห็นชอบ แต่ไม่กล้า

“ผมเชื่อว่าการชื่นชมสรรเสริญ ส.ว. 13 ท่าน จะเป็นแรงจูงใจเชิงบวก” นายวิโรจน์กล่าว

กรณี มาตรา 112 นายวิโรจน์กล่าวว่า พรรคก้าวไกล ยืดหยุ่นเกี่ยวกับ ม.112 มาโดยตลอด กล่าวคือ ไม่ได้อยู่ในเอ็มโอยู 8 พรรคร่วม ดังนั้น จึงไม่ได้เป็นนโยบายร่วมกันของรัฐบาล ดังนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่การแก้ไข ม.112 ที่จะเสนอผ่าน ค.ร.ม. แต่จะเป็นการเสนอผ่าน ส.ส. ตามเอกสิทธิ์ของ ส.ส.พรรคก้าวไกล

Advertisement

“ดังนั้นการร่วมรัฐบาลไม่มีความจำเป็นต้องไปตัดเอกสิทธิ์ หรือตัดหน้าที่ของ ส.ส. ในการเสนอกฎหมายไม่ใช่หรือ เราก็พูดมาตลอดว่า การแก้ไข ม.112 ต้องดำเนินการอย่างประณีต รอบคอบ รอบด้าน ถ้ามีกระบวนการใดๆ ทางรัฐสภา หรือสภาผู้แทนราษฎร อาจหมายถึงการตั้งคณะกรรมาธิการใดๆ ก็ยินดี เพราะยิ่งเราทำอย่างรอบคอบเท่าไหร่ ยิ่งรับฟังเสียงเห็นตรง เห็นต่างมากเท่าไหร่ จะยิ่งทำให้ลดความขัดแย้ง ทำให้สังคมเห็นเจตนาที่ดีในการแก้ไข ม.112” นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์กล่าวว่า ขอยืนยันว่า ไม่ใช่ว่าพรรคก้าวไกลไม่ยอมปรับเปลี่ยนอะไรเลย แต่ถ้าจะให้ลืมไปเลยว่าเคยพูด เราทำไม่ได้ แต่ถ้าต้องทอดเวลาออกไป ใช้กระบวนการเพิ่มเติมตามกลไกรัฐสภา หรือสภาผู้แทนราษฎร เราเคารพกติกา

“พรรคร่วมฯ เป็นจักรยาน 8 คัน พรรคก้าวไกลพยายามประคองความแน่นแฟ้นกลมเกลียวของ 8 พรรคร่วม ไปให้ได้ตลอดรอดฝั่ง และเข้าเส้นชัยไปด้วยกัน ตรงนี้ยืนยัน ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการปักธง ว่าเราจะทำให้ภาคี 8 พรรคร่วม เดินหน้าต่อไปให้ได้

ไม่เคยสร้างเงื่อนไขที่จะทำให้ภาคี 8 พรรคร่วมสูญสลายหายไป ส่วนหนึ่งคือคำสัญญาที่เราให้ไว้กับประชาชน อีกส่วนหนึ่งคือตั้งใจที่จะประคับประคองความแน่นแฟ้นกลมเกลียว จัดตั้งรัฐบาลร่วมกันให้ได้ อะไรที่อาจจะอ้อมๆ ไปบ้าง แต่ได้วัตถุประสงค์เดียวกัน หรืออาจจะมีเงื่อนไขเวลาที่จะทำให้ทุกฝ่ายสบายใจ เราจะไม่มีเหตุที่มุทะลุ ตั้งเงื่อนไขที่ทำให้ภาคี 8 พรรคร่วมรู้สึกลำบากใจแน่นอน ไม่มีการปิดประตูไม่คุย ไม่มีการพยายามสร้างเงื่อนไขที่ทำให้เพื่อนของเราลำบากใจ หรือลังเลใจด้วยซ้ำ” นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์กล่าวด้วยว่า ตนเป็นคนใจร้อน แต่เวลารักเพื่อน รักสุดใจจริงๆ แม้เพื่อนหักหลังในอดีต ตนยอมเป็นคนโง่ ดีกว่าลังเลเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image