“ประยุทธ์” ยังไม่รู้แก้ พ.ร.บ.สงฆ์ ระบุจัดการ “ธัมมชโย” เป็นไปตามกฎหมายขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม อย่างเร่งรัด สุวพันธุ์ ยัน รื้อวัดธรรมกายทำตามกฏหมาย
เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 27 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการเสนอแก้ไขพ.ร.บ.สงฆ์ ว่า ถือเป็นเรื่องธรรมดา และตนเองยังไม่รู้ ส่วนการแก้ไขพ.ร.บ.ฉบับใดก็ตามถือเป็นหน้าที่ของทุกคนเสนอใช้กฎหมายได้ รัฐบาลก็เสนอได้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ก็เสนอได้ ซึ่งขั้นตอนมีอยู่แล้ว นี่คือขั้นตอนของการทำงาน ในเรื่องการเสนอกฎหมาย ตนไม่ต้องไปสั่งใคร หรือใครต้องมาขออนุญาตถือเป็นกลไกทางกฎหมาย ที่ฝ่ายนิติบัญญัติเป็นผู้ดำเนินการ “ผมยังไม่รู้อะไรเลยในเรื่องนี้”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย ว่า “ตอนนี้คดีที่เกี่ยวข้องปาไป 200 กว่าคดีแล้ว คือถ้าสถานการณ์พร้อมเมื่อไหร่ จะต้องดำเนินการตามหมายค้น หมายจับ ทำได้เมื่อไรก็เมื่อนั้น ไม่ต้องไปเร่งรัดอะไรกันนักหนา ผมบอกแล้วอย่างไรว่าขอให้ทุกคนมีความสุขในช่วงปีใหม่ก่อนไม่ดีกว่าหรือ เข้าไปแล้วจะได้อะไร หรือไม่ได้อะไร จะดีหรือเสีย หรือจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น ทุกคนคาดการออกกันอยู่แล้วว่าเขาต้องการอะไร แล้วเราจะเดินไปตามทางที่เขาวางขุดล่อไว้หรืออย่างไร เป็นเรื่องของรัฐบาลที่จะต้องควบคุมสถานการณ์นี้ให้ได้ ทุกคนจะต้องอยู่ในความสงบเรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นพระ คน ต่างก็มีหน้าที่กันอยู่แล้ว กระทรวงยุติธรรมก็มีหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ก็ได้ทำหน้าที่กันไปแล้ว คดีความต่าง ๆ ก็อยู่ระหว่างการนำสู่กระบวนการพิจารณา ฟ้องร้องดำเนินคดีไปทั้งหมดแล้ว หลายร้อยคดี ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องของดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ซึ่งกฎหมายเขียนไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าถ้าเหตุการณ์จะส่อไปสู่ความวุ่นวาย มีอันตรายเกิดขึ้น เมื่อได้เวลาที่เหมาะสมก็ค่อยดำเนินการ ก็ไม่ได้สั่งว่าจะต้องเป็นเมื่อไร ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว สื่อต้องการจะให้เกิดขึ้นเร็ว ๆ หรือไม่ ใครอยากไปเวลาเขาดำเนินการให้บอกมา เดี๋ยวจะจัดให้ไปด้วย ไปเป็นแนวหน้าด้วยกัน”
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เข้าทำการรื้อถอนโครงสร้างที่รุกล้ำพื้นที่สาธารณประตู 5 วัดพระธรรมกาย ว่า ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติในการดำเนินการเรื่องวัดพระธรรมกาย ให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย ทางดีเอสไอ ก็ทำไปตามหน้าที่และข้อกฎหมายให้เต็มที่ อะไรทำได้ก็ให้ทำไป และก่อนที่จะเข้าทำการรื้อโครงสร้างก็ได้รายงานให้ทราบแล้ว ส่วนหลังจากนี้จะมีการเจรจากันอีกครั้งก่อนที่จะเข้าทำการจับกุมตัวพระธัมมชโยหรือไม่ ยังไม่รู้ ทุกอย่างเหมือนกับที่นายกรัฐมนตรี ระบุคือให้ทำเต็มที่