09.00 INDEX ปัญหา ก้าวข้าม ความขัดแย้ง กับ เจตจำนงร่วม การเลือกตั้ง
ทั้งๆที่ท่วงท่าอันมาจาก 250 ส.ว.ต่อบทบาทของพรรคเพื่อไทยในการเสนอแคนดิเดตเข้าชิงตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” เปี่ยมไปด้วยมิตรไมตรีอันอบอุ่น
ทั้งๆที่ท่วงท่าอันมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ก็ประสานรับกับในแต่ละจังหวะก้าวอันขับเคลื่อนโดยพรรคเพื่อไทย
เหตุใดจึงยังไม่สามารถนำเรื่องการเสนอชื่อแคนดิเดตนายก รัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน ไม่ว่า จะเป็น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไม่ว่าจะเป็น นายชัยเกษม นิติสิริ เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมรัฐสภาได้อย่างราบรื่น
เป็นเพราะเริ่มมีการต่อต้านปรากฏขึ้นจาก #พร้อม บนแยกอโศกมนตรี เป็นเพราะเริ่มมีมวลชนไม่พอใจถึงกับรุกไปต้านเมื่อ พรรคพลังประชารัฐเดินทางไปยังพรรคเพื่อไทย กระนั้นหรือ
หรือว่าข้อเสนอในเชิงกดดันจากหลายภาคส่วนที่เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยตามคำเชิญในการตัดพรรคก้าวไกลออกไปจากสมการในทางการเมืองจะกลายเป็นอุปสรรค
ทำให้พรรคเพื่อไทยไม่สามารถดำเนินการตามเข็มมุ่ง “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” บนหลักการ “แก้ไข ไม่แก้แค้น” ได้โดยราบรื่น
แรกที่เกิดปรากฏการณ์พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนากล้า พรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย ตามมาด้วย พรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคพลังประชารัฐ
ก่อให้เกิดความคึกคักเป็นอย่างสูงแม้ว่าพรรคเพื่อไทยจะยืนยันว่ามิได้เป็นการเชิญเข้าร่วมเสมอเป็นเพียงขอความเห็น
ขณะเดียวกัน ในเมื่อความเห็นจากพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนากล้า พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒ นา พรรคพลังประชารัฐ ก็อยู่บนแนวทางเดียวกัน
นั่นก็คือ สามารถ “ร่วม” กับพรรคเพื่อไทยได้ พร้อมที่จะให้คะ แนนเสียงกับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย แต่ติดอยู่ เงื่อนไขเดียว ต้องไม่มีพรรคก้าวไกลรวมอยู่ด้วย
นี่ย่อมเป็นโจทย์ นี่ย่อมเป็นคำถามอันแหลมคมอย่างยิ่งต่อ
การตัดสินใจและเลือกที่จะก้าวเดินต่อไป
ความแหลมคมมิได้อยู่ที่พรรคก้าวไกลมี 14 กว่าล้านคะแนนเสียง อย่างเดียว หากที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ จำนวน 14 กว่าล้านเสียงของพรรคก้าวไกลสะท้อน “เจตจำนง” ใดในทางการเมือง
เป็น “เจตจำนง” เดียวกันกับ 10 กว่าล้านของพรรคเพื่อไทยหรือไม่
นั่นก็คือ เจตจำนงในการ “ปิดสวิตช์” อำนาจ “3 ป.”
คำถามอยู่ที่ว่าการดึงพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย เข้ามาจะสอดรับกับ “เจตจำนง” หรือไม่