วิโรจน์ เชื่ออย่างแรงกล้า กลับมาเสนอ ‘พิธา’ ซ้ำได้ อีก 10 เดือนก็รอ ยันให้เกียรติพท. ไม่ตั้งเงื่อนไขนั่นโน่นนี่

วิโรจน์ เชื่ออย่างแรงกล้า กลับมาเสนอ ‘พิธา’ ซ้ำได้ อีก 10 เดือนก็รอ ยันให้เกียรติ พท. ไม่ตั้งเงื่อนไขนั่นโน่นนี่

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ ‘มติชนทีวี’ ในตอนหนึ่งว่า คำว่าท้อ ตนสะกดไม่เป็น ไม่แน่ใจว่า ใช้ ธ.ธง หรือ ฑ. นางมณโฑ แต่คำว่า ‘สนุก’ ตนสะกดเป็น และคิดว่าการเมืองไทยขณะนี้สนุกมาก น่าติดตาม เหตุการณ์วันนี้จะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยชั่วลูกชั่วหลาน

นายวิโรจน์กล่าวว่า ตนไม่เคยคิดจะแยกออกจากภาคีพรรคร่วม จะโหวตกี่ครั้งก็ได้ อย่างไรก็ไปด้วยกัน จะ 100-200 ครั้งก็ได้ จะต้องรออีก 10 เดือนก็ต้องรอ เราจะไม่มีทางหันหลังหรือทำผิดต่อเพื่อนอย่างแน่นอน
“ณ วันนี้เราไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่อยู่ในฐานะสมาชิกในทีม ก็พยายามทำตัวเป็นสมาชิกในทีมที่ให้เกียรติแกนนำคือพรรคเพื่อไทยอย่างมากที่สุด ให้ทำงานได้เต็มที่ และมองแง่บวก

ผมพยายามไม่ตั้งเงื่อนไขนั่นโน่นนี่ สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตามที่เราทราบกัน ผมไม่เคยไปวิพากษ์วิจารณ์แบบที่ทำให้พรรคเพื่อไทยหรือพรรคใดๆ ใน 8 ภาคีพรรคร่วมได้รับความเสียหาย เพราะรู้ว่ากำลังสู้กับอนุรักษนิยม เผด็จการที่พยายามสืบทอดอำนาจ

Advertisement

วันนี้เราต้องมีน้ำอดน้ำทน จะว่าหน้าด้านก็ได้ แต่ต้องหน้าด้านสู้ฝั่งอำนาจเก่า ถามว่าทำไมก้าวไกลไม่ออก 2 สัปดาห์ก่อน มีกระแสในโซเชียลว่าให้ก้าวไกลออกมาเป็นฝ่ายค้านเลย 4 ปีรอได้ แต่วันนี้ เมื่อหลายคนได้ฟังทฤษฎีคำสอนของพ่อตนที่ว่า เจอคนหน้าด้านต้องหน้าด้านกว่า ตอนนี้กระแสในโซเชียลน่าจะเกือบเอกฉันท์ โดยเปลี่ยนการตัดสินใจกันเกือบหมดแล้ว ว่าต้องสู้ต่อ

เชื่อไหมว่า ถ้าประกาศจุดยืนว่า อย่างไรก็รอ เอาดิ! จะรอ และจะรอจนว่าสุดท้าย เชื่อผมเถอะว่าสุดท้ายจะไม่ถึง 10 เดือน วันนี้ที่กลุ่มอนุรักษนิยมสืบทอดอำนาจพยายามเสี้ยม พยายามกดดัน เพราะคิดว่าเรารอกันไม่ไหว แต่ถ้า 8 พรรคบอกว่ารอได้ ไม่รีบไม่ร้อน เชื่อว่าสุดท้ายไม่ถึง 10 เดือน

Advertisement

ถามว่า ถ้าลุงมา ฉันจะไปไหม เหมือนเพลง พี่ดา เอ็นโดรฟิน ผมก็ยังไม่ไป ถ้าลุงมา 151 เสียงจะสกัดลุงก่อน ลองคิดดูว่า เหมือนบ้านหลังนี้อยู่กัน 8 คน อยู่ดีๆ ลุงมา 2 คน 151 คนจะเดินออกไป ผมว่ามันไม่ใช่ แต่ต้องคุยกับเพื่อนอีก 7 พรรค ว่าไม่เห็นด้วยกับการที่ 2 ลุงจะเข้าบ้าน

ถ้าลุงมา จะทำทุกวิถีทางไม่ให้ลุงเข้ามา แต่ถ้าสุดปลายทางเพื่อนเราเป็นคนเปิดประตู พาลุงเข้ามา จัดแจงที่นอนและสำรับอาหารให้ลุง วันนั้นถ้าเขาเอ่ยปากว่า ให้เราไป ก็อาจจำเป็นต้องไป แต่ไม่ใช่ว่า ลุงมาแค่ประตูหน้าบ้าน ก็จะเปิดประตูออกไปทันที ไม่ๆๆๆ ครับ เราหน้าด้านกว่านั้น เราจะไล่ลุงและบอกเพื่อน 7 เพื่อนว่าประชาชนไม่ต้องการให้ลุงเข้ามา แต่ถ้าเพื่อนผลักอกเรา แล้วเปิดประตูให้ลุง จะทำอย่างไรได้ ถึงวันนั้นอาจต้องทบทวน แต่ไม่เชื่อว่าจะมีวันนั้น” นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์กล่าวต่อไปว่า ตนเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่า การโหวตนายกฯ ไม่ใช่ญัตติ ไม่เช่นนั้นจะกระทบกระเทือนกับเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญอย่างร้ายแรง จึงมองว่า สามารถเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ซ้ำได้ รวมถึงนายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย

“วันนี้ ผมเตรียมตั้งคำถามด้วยซ้ำไปว่า ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเสนอให้สภาเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลที่สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ญัตติ คนที่โหวต YES จะรับผิดชอบอย่างไร ผมมีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่าไม่ใช่ญัตติ เพราะไม่เช่นนั้นจะกระทบหลายเรื่อง และมันตีความเป็นญัตติไม่ได้ ถ้าสุดท้ายไม่ใช่ญัตติ ก็เสนอชื่อคุณพิธาซ้ำได้ ก็เสนอวนไป คุณพิธาบ้าง คุณเศรษฐาบ้าง คุณอุ๊งอิ๊งบ้าง สู้กันไปอย่างนี้ จับฉลาก คราวนี้พิธาลุยก่อน พูดเล่นนะ คงต้องมีการหารือกัน” นายวิโรจน์กล่าว

ชมรายการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image