09.00 INDEX เบื้องหลัง ปรากฏการณ์ ‘เลื่อน’ รัฐธรรมนูญ คือ มูลฐานแห่งเหตุ
ไม่เพียงคำสั่ง ‘เลื่อน’ การประชุมรัฐสภาอันกำหนดในวันที่ 27 กรกฎาคม ออกไปอย่างไม่มีกำหนด หากคำแถลง “เลื่อน” การพบกันระหว่าง 8 พรรคในวันที่ 26 กรกฎาคม ก็เป็นผลสะเทือน
เป็นผลสะเทือน 1 ต่อการหาทางของ 8 พรรค เป็นผลสะเทือน 1 ต่อการโหวตนายกรัฐมนตรี
เหตุผลอันได้รับการอ้างอิงในความจำต้อง “เลื่อน” สำคัญ
เหตุผลของรัฐสภาเพราะต้องรอผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เหตุผลของพรรคเพื่อไทย เนื่องจากการทำงานที่ได้รับความมอบหมายยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร
ความกังวลลึกๆ ที่มิได้มีการอ้างอิงคือ เกรงความขัดแย้ง
เกรงว่าหากรัฐสภาเข้าสู่การพิจารณาในเรื่องโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีขณะที่มีการเสนอไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้มีการวินิจฉัยเท่ากับเป็นจุดหักเลี้ยวอันแหลมคม
ขณะเดียวกัน เกรงว่าบทสรุปพรรคเพื่อไทยได้มาในการเริ่มต้นการหารือกับหลายพรรคการเมืองในห้วง 2-3 วันที่ผ่านมาอาจเป็นการสร้างและเพิ่มประเด็นใหม่อันกลายเป็นความขัดแย้ง
ไม่ว่าการเลื่อนโดยรัฐสภา ไม่ว่าการเลื่อนโดยพรรคเพื่อไทยถามว่าสามารถยุติปัญหาและหาคำตอบได้หรือไม่
ไม่ว่าจะมองจากสภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่าจะมองจากวุฒิสภา ล้วนเห็นตรงกันว่า ทั้งหมดนี้คือปัญหาอันมากด้วยความขัดแย้ง และมีความอ่อนไหวเป็นอย่างสูงในทางการเมือง
เนื่องจากเป็นการปะทะระหว่าง 2 คู่ต่อสู้ในทางการเมืองอันแหลมคม 1 คือฝ่าย 332 และอีก 1 คือฝ่ายที่เหลืออยู่
โดยมี 250 ส.ว.ดำรงอยู่ในสถานะอันเป็นฝ่ายชี้ขาด
หากมองเพียงในด้านของสภาผู้แทนราษฎร ฝ่าย 332 คือเสียงข้างมาก แต่ทันทีที่นำเอาจำนวน 250 ส.ว.ไปผนวกรวมกับฝ่ายที่เหลืออยู่ดุลแห่งเสียงก็เกิดการแปรเปลี่ยน
ไม่ว่ารากฐานความคิดและความต้องการในการตรารัฐธรรมนูญออกมาอย่างไร แต่สภาพความเป็นจริงที่ปรากฏในการเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม นี่คือปัญหา
นี่คือ เดดล็อกที่จะสร้างปัญหามิใช่การยุติปัญหา
ไม่ว่าจะเป็นการถกเถียงในที่ประชุมรัฐสภา ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวในท้องถนนและในหลายที่ประชุมทางวิชาการและทางการเมืองล้วนแวดล้อมอยู่กับปัญหานี้
และวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 กลายเป็น “ธง” สำคัญ
กลายเป็นข้อเสนอ กลายเป็นข้อเรียกร้อง และกลายเป็นคำถามอยู่ภายในปรากฏการณ์ “เลื่อน” ไม่ว่าภายในพันธมิตร 8 พรรค ไม่ว่าที่แสดงออกผ่านรัฐสภา
ยังไม่มีใครให้ “คำตอบ” ได้ว่าหนทางเลือกแต่ละหนทางจะเป็นทางเลือกหรือเป็นการสร้างปัญหาใหม่ตามมา
