ตอกฝาโลง-เผาทิ้ง รธน.60 เชิญวิญญาณวีรชน อ่านแถลงการณ์ร่วม 26 คณะ 13 กลุ่มอิสระ
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ลานสัญญาธรรมศักดิ์ หน้าคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดกิจกรรมชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน เพื่อร่วมกันทวงคืนอำนาจของประชาชน แสดงจุดยืนต่อ 8 พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในการจัดตั้งรัฐบาล และโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ให้เป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนที่ส่งผ่านการเลือกตั้ง
บรรยากาศเวลา 20.30 น. นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) และประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมอ่านแถลงการณ์ร่วม ของ อมธ. สภานักศึกษาฯ และคณะกรรมการนักศึกษา 26 คณะ, สถาบันวิทยาลัย, หลักสูตร ชุมนุม และกลุ่มอิสระ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 13 กลุ่ม
เรื่อง เรียกร้องผู้มีอำนาจ และพรรคการเมืองให้จัตตั้งรัฐบาลตามเจตนารมณ์ของประชาชน
จงพึงระลึกถึงอนาตตของประเทศชาติ และความสง่างามในวิถีทางประชาธิปไตย
ความตอนหนึ่งว่า
นับเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว ตั้งแต่การชุมนุมธรรมศาสตร์จะไม่ทนในวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2563 เพดานทางการเมืองของประเทศไทย ช่วงเวลานั้นได้ถูกท้าทายอย่างที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน ท้องถนนเนืองแน่นไปด้วยนักศึกษา ประชาชน รวมถึงผู้คนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการเมือง และเศรษฐกิจที่มีปัญหาในประเทศของเรา แม้การต่อสู้ในห้วงเวลาดังกล่าวจะไม่สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมได้ แต่การกระทำดังกล่าวได้ปลุกทุกจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ขึ้นอีกครั้งและจะไม่มีวันดับสูญไป
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 นับเป็นความหวังต่อการเปลี่ยนแปลงในระบบ แต่กลับเป็นอีกครั้งที่ความต้องการของประชาชนได้ถูกบดขยี้ เพราะแม้ฉันทามติของประชาชนจะเด่นชัด สะท้อนผ่านคูหาเลือกตั้งอย่างไร แต่ก็เหมืยนกับไม่มีความหมายใดๆ ที่จะทำให้ผู้มีอำนาจที่แท้จริงในประเทศแห่งนี้รู้สึกรู้สาเลยแม้แต่น้อย
องค์กรอิสระมีสิทธิเด็ดขาดในการชี้นำความเป็นไปได้ของการเมือง เช่นเดียวกับการทำหน้าที่ของวุฒิสภาในการเดินหน้าขัดขวางการก้าวเดินของระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย นับตั้งแต่ถูกแต่งตั้งขึ้นโดยรัฐบาล
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งหมดนับเป็นความรู้สึกที่ทำให้ผู้คนในสังคมเกิดความคับแค้นใจพร้อมกับตั้งคำถามว่า ประเทศไทยเป็นของใครกัน
วิกฤตการณ์ภายหลังการเลือดตั้งที่ทำให้ประชาชนไม่สามารถมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากความเห็นชอบของประชาชนส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้น นับเป็นผลลัพธ์อันเป็นรูปรรรมที่เกิดจากการรัฐประหารและการเข้ามามีอิทธิพลทางการเมือง
ในวันนี้พวกเราประชาชน ขอเรียกร้องไปถึงผู้มีอำนาจ และพรรคการเมืองที่กำลังมุ่งหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลในนามของประชาชน ให้พึงระลึกถึงอนาคตของประเทศชาติ และความสง่างามในวิถีทางประชาธิปไตย ไม่มีประโยชน์ใดๆ ที่จะเหนี่ยวรั้งเข็มนาฬิกาไม่ให้หมุนดินต่อไปข้างหน้า
วันนี้พวกเราขอประกาศจุดยืนว่า ไม่ว่าอย่างไรพวกเราก็จะไม่ยอมแพ้ พวกเราจะต่อสู้
ในทุกวีถีทางเพื่อโค่นล้มความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นภายใต้โครงสร้างทางการเมืยงอันบิดเบี้ยวในสังคมไทย พวกเราจะต่อสู้ผ่านคูหาเลือกตั้ง พวกเราจะต่อสู้บนท้องถนน พวกเราจะต่อสู้ด้วยวาจา และความคิด ตามสิทธิ และเสรีภาพที่มนุษย์ทุกคนพึงมีภายใต้กฎกติกาอันเป็นธรรม ทั้งหมดนี้คือจิตวิญญาณของธรรมศาสตร์ กับการต่อสู้ที่ไม่มีวันสูญสลายลงได้ เพราะความอดทน
ของผู้คนนั้นมีขีดจำกัด ธรรมศาสตร์เราจึงขอยืนตรงและไม่อดทนอีกต่อไป #ธรรมคาสตร์จะไม่ทน
แล้วพบกันอีกเร็วๆ นี้
26 กรกฎาคม 2566
ต่อมา เวลา 20.35 น มีพิธีไว้อาลัยประชาธิปไตย
โดยผู้จัดกิจกรรมนำโรงศพมาตั้งหน้าลานสัญญาธรรมศักดิ์ ก่อนสัญลักษณ์ด้วยการตอกฝาโลง
ตัวแทน อมธ.กล่าวว่า ประชาชนสูญเสียเลือดเนื้อมามากเท่าไหร่ เพื่อเปลี่ยนให้อำนาจเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง น่าเศร้าที่ความสูญเสียเหล่านี้ เกิดจากทรราช ที่ย่ำยีชีวิต เพียงเรียกร้องหาเสรีภาพ ขอตอกฝาโลง ปิดผนึกความชั่วร้าย
ก่อนเผาหุ่นฟาง ที่เปรียบเหมือน ส.ว. ที่ไม่เห็นเสียงประชาชน จึงขอสาปแช่งความอยุติธรรม
ประชาชนเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในประเทศนี้ การกระทำในครั้งนี้ ขอส่งเสียงไปถึงผู้มีอำนาจทั้งหลาย ให้รับฟังเรา เราไม่มีรถถัง อาวุธ มีเพียง 2 มือที่ต่อสู้ โดยคาดหวังว่าอนาคตประเทศจะดีกว่าเดิม
จากนั้น เวลา 20.40 น. มีการเผาตำรากฎหมาย
คือ กฎหมายรัฐธรรมนูญ 2560 พร้อมร่วมชู 3 นิ้วไว้อาลัยประชาธิปไตย
“เราทำทุกวิถีทาง นี่ไม่ใช่การชุมนุมแรก และไม่ใช่ครั้งสุดท้าย หากการเมืองในประเทศนี้ไม่ดีขึ้น” ตัวแทน อมธ.กล่าว
โดยระหว่างเผาตำรามีการเชิญดวงวิญญาณวีรชน 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน และกล่าวคำสาปแช่งอย่างดุเดือดก่อนร่วมชู 3 นิ้ว ยืนยันเจตจำนง สู้จนกว่าชนะ ก่อนยุติการชุมนุม
