อดีตเลขาฯสมช. มั่นใจ 8 พรรคร่วม ถ้ากอดคอสู้-ไม่เสียสัตย์ ยังไงก็ชนะ กับดักโหวตนายกฯ
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลว่า เพราะผลการเลือกตั้งที่ออกมา ประชาชนเขาไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม จึงมอบอาญาสิทธิ์เป็นพันธกิจให้ 8 พรรค 312 เสียง ที่มีพรรคก้าวไกลเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันไปเป็นรัฐบาลเพื่อบริหารราชการแผ่นดินตามเจตจำนงที่ประชาชนอยากจับต้อง (MOU 8 พรรค) คือ การปราบคอร์รัปชั่น ปฏิรูปกองทัพ ทลายทุนผูกขาด การกระจายอำนาจ สันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ เศรษฐกิจดี รัฐสวัสดิการถ้วนหน้า สังคมยุติธรรมเป็นธรรม เป็นต้น แต่มันไปติดกับดักที่การโหวตตัวนายกรัฐมนตรีอยู่
การจะหลุดรอดจากกับดัก ก็เพียงแค่กอดคอกันให้มั่นและยึดกฎลูกเสือ ”เสียชีพอย่าเสียสัตย์” เป็นแนวต่อสู้ กาลเวลาก็จะพาพวกท่านสู่ชัยชนะ เพราะเสียงของวุฒิสมาชิกจะเข้ามาเสริม 8 พรรคให้ไปถึง 376 เสียง เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะพลังประชาชนทางตรงจะไปกระชากจิตวิญญาณให้เหล่าวุฒิสมาชิกที่เป็นนายทหาร ซึ่งสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายทหารหลัก เริ่มดวงตาเห็นธรรมหวนระลึกถึงการยึดมั่นในระบบเกียรติศักดิ์ที่สร้างให้พวกเขาได้รับการกล่าวขานในอดีตจากประชาชนว่า ”เป็นสุภาพบุรุษแห่งถนนราชดำเนิน” และ ”เป็นวีรบุรุษแห่งสะพานมัฆวาน”
และแล้วระบบเกียรติศักดิ์นี้เอง จะทำให้ต่อมสำนึกรู้ผิดชอบชั่วดี และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางของพวกเขาเริ่มกลับคืนมา แล้วเมื่อสำนึกคืนสู่จุดปกติของวิญญูชน พวกเขาก็จะตื่นขึ้นเคารพเจตจำนงเสียงศักดิ์สิทธิ์ของประชาชนหันมาร่วมกันโหวตตัวนายกรัฐมนตรีให้กับฝ่ายปีกประชาธิปไตย 8 พรรคร่วมในที่สุด แล้วเมื่อนั้นประเทศไทยก็จะคืนสู่ความเป็นปกติ มีรัฐบาลที่มีความชอบธรรมเป็นที่ยอมรับอย่างสง่างาม ทั้งในและต่างประเทศ เร่งสร้างกระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรม พาคนไทยที่ระหกระเหินอยู่ต่างแดนกลับคืนสู่มาตุภูมิโดยถ้วนหน้าอย่างเสมอภาค อำนาจอยู่กับประชาชนปลอดภัยที่สุด