เพื่อไทยจ่อเปิดตัวรัฐบาลใหม่ พรุ่งนี้ ขอรอความชัดเจน มีลุงหรือไม่

‘เพื่อไทย’ ฉีกเอ็มโอยู 8 พรรคร่วม เดินหน้าตั้งรัฐบาล พรรคร่วมใหม่ เสนอ ‘เศรษฐา’ ชิงนายกฯ ด้าน ‘ก้าวไกล’ ถอยเป็นฝ่ายค้าน ‘ชลน่าน’ ปัดบอกเลิก ย้ำพรุ่งนี้ชัดมีสองลุงร่วมด้วยหรือไม่

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 2 สิงหาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แกนนำพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ซึ่งเป็นคณะเจรจานำโดย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค และนายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรค เดินทางเข้าพรรค พท. เพื่อหารือกันถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับทางแกนนำพรรค พท. ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรค

ทั้งนี้ แกนนำพรรค ก.ก.ได้เดินทางเข้าพรรค พท.จากทางลานจอดรถชั้น 7 หลังที่ทำการพรรค โดยทางแกนนำพรรค ก.ก.ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้สื่อดักรอสัมภาษณ์แกนนำจากทางลานจอดรถด้วย ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายใช้เวลาหารือร่วมกันนานเกือบ 5 ชั่วโมง

จากนั้นเวลา 14.20 น. แกนนำพรรค พท.ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน นายภูมิธรรม และนายประเสริฐ ร่วมแถลงผลการหารือร่วมกับทางพรรค ก.ก. โดย นพ.ชลน่านอ่านแถลงการณ์โดยสรุปว่า ขอถอนตัวจากการร่วมมือเดิม และเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วมใหม่ เสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯของพรรค ให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ขณะที่พรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้าน และมีภารกิจในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมคืนอำนาจให้ประชาชน

Advertisement

ต่อจากนั้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า บรรยากาศพูดคุยเป็นไปด้วยดี ทางพรรค ก.ก.ต้องการความชัดเจนจากพรรค พท. ซึ่งพรรค ก.ก.เข้าใจเหตุผลของเรา แต่ขอสรุปให้ชัดว่าไม่ใช่การบอกเลิกกัน แต่เป็นความจำเป็นที่ต้องชี้ให้เห็นถึงเหตุผลที่ต้องแยกกันจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรค ก.ก.

เมื่อถามถึงพรรคร่วมรัฐบาลใหม่มีพรรคไหนบ้าง และพรรค ก.ก.จะโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท.หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราได้คุยกับพรรค ก.ก.โดยขอให้เป็นเอกสิทธิ ส.ส.ที่จะลงคะแนนให้กับพรรค พท. โดยเราไม่ได้ร้องขอ จะโหวตหรือไม่โหวตให้เราก็ได้ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลใหม่จะขอแจ้งให้ทราบในวันที่ 3 สิงหาคม ส่วน ส.ว.จะโหวตให้ พท.หรือไม่นั้น จากการแถลงวันนี้และแนวทางที่ชัดเจนที่เราแสดงเจตนารมณ์ ข้อกังวลของ ส.ส.และ ส.ว. เราเชื่อว่าภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว เราลดเงื่อนไขทั้งหมด น่าจะเป็นเหตุผลเพียงพอที่ ส.ว.จะโหวตให้ความเห็นชอบ

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า พท.จะเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ในการเสนอนายกรัฐมนตรีคาดว่าจะได้เสียงสนับสนุนครบ จากนั้นเราจะตั้งรัฐบาล ถ้าจะให้รัฐบาลเข้มแข็งควรมีเสียงเกิน 300 เสียงขึ้นไป แต่ด้วยข้อจำกัดขณะนี้เราจะหาเสียงสนับสนุนให้ได้มากที่สุด เชื่อว่าการโหวตนายกรัฐมนตรี วันที่ 4 สิงหาคม จะจบด้วยการได้นายกรัฐมนตรีในวันดังกล่าว ทั้งนี้ ส่วนที่ ส.ว.ต้องการให้นายเศรษฐาแสดงวิสัยทัศน์นั้น การแสดงวิสัยทัศน์ใช้เฉพาะตำแหน่งประธานสภา แต่ข้อบังคับการเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ได้ระบุว่าจะต้องแสดงวิสัยทัศน์ เท่าที่คุยกับนายเศรษฐาก็พร้อมจะตอบทุกข้อสงสัย แต่ด้วยความที่นายเศรษฐาไม่เป็น ส.ส.และถ้าเข้าสภาไปอาจจะมีประเด็นที่คาดไม่ถึง จึงขอไม่เข้าไปในที่ประชุม แต่หากมีอะไรที่พาดพิง ส.ส.ของพรรค พท.พร้อมลุกขึ้นชี้แจงแทน

เมื่อถามว่า จะไม่มีพรรคสองลุงเข้าร่วมรัฐบาลใหม่ใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขอให้รอความชัดเจนในวันที่ 4 สิงหาคม และมั่นใจว่าเราจะตอบคำถามสังคมในทุกข้อสงสัย

ถามถึงกรณีที่ประชาชนออกมาชุมนุมกดดันพรรค พท.ในการจัดตั้งรัฐบาลโดยที่ไม่มีพรรค ก.ก.นั้น นพ.ชลน่านกล่าวว่า การมีรัฐบาลคือสิ่งจำเป็น จึงต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบถึงข้อจำกัด ซึ่งการแสดงออกทางการเมืองในยุคนี้มีความหลากหลายอยู่แล้ว เราในฐานะที่เป็นตัวแทนของเขา เราต้องพร้อม ถ้าม็อบมีความปรารถนาต่อบ้านเมือง ตนเชื่อว่ารับมือได้

เมื่อถามว่า ลำบากใจหรือไม่ที่ต้องตัดสินใจแยกทางกับพรรค ก.ก. นพ.ชลน่านกล่าวว่า “มันไม่มีอะไรสวยงาม ทุกอย่างเราพยายามทำในสิ่งที่เสียหายกับประเทศน้อยที่สุด”

ด้านนายภูมิธรรมกล่าวถึงกรณีแกนนำพรรค ก.ก.วิพากษ์วิจารณ์พรรค พท.ประวิงเวลา ไม่เรียกประชุมพรรคร่วมเสียทีว่า ไม่ใช่การประวิงเวลา แต่ที่ช้าเพราะเราถูกร้องขอจากแกนนำพรรค ก.ก.ให้รอถึง 23.00 น.คืนวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งเรารอถึงเที่ยงคืนของวันที่ 1 สิงหาคม แต่พรรค ก.ก.ก็ไม่มีการติดต่อกลับมา เราจึงดำเนินการตามแนวทางของเราตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม โดยเราหารือกับพรรค ก.ก.มาตลอด แต่แกนนำพรรค ก.ก.อาจจะมีปัญหาการสื่อสารภายในกับสมาชิก ทั้งนี้ เราได้โทรศัพท์ชี้แจงพรรคร่วมที่เหลือแล้ว ว่าเราต้องตั้งรัฐบาลเพื่อคลี่คลายวิกฤตที่เกิดขึ้น

“การตกลงกันครั้งนี้ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลไม่ใช่การเกี้ยเซี้ยทางการเมือง แต่เป็นการต่างคนต่างทำหน้าที่โดยไม่มีก้าวไกลร่วมตั้งรัฐบาลด้วย ส่วนนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประเทศและประชาชน เราพร้อมร่วมผลักดันไม่ว่าจะเป็นของฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน แต่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยคือการแก้ไขมาตรา 112 โดยเราจะทำหน้าที่ใช้ประสบการณ์ของเราแก้วิกฤตเศรษฐกิจ การเมืองให้เข้าสู่ระบบปกติทั้งหมด” นายภูมิธรรมกล่าว

นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า การประสานงานหลังจากนี้ ทุกพรรคการเมืองไม่มีเงื่อนไขใดๆ ในการเข้าร่วม โดยเป้าหมายของพรรค พท.คือต้องได้ตัวนายกรัฐมนตรีก่อน ส่วนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลใหม่นั้น ต้องเป็นจำนวนที่เพียงพอต่อการบริหารประเทศได้

ขณะที่นายประเสริฐกล่าวถึงกรณีอีก 6 พรรคร่วมจะตัดสินใจร่วมรัฐบาลใหม่กับพรรค พท.หรือไม่ว่า ขอให้เป็นดุลพินิจของแต่ละพรรค หากเห็นด้วยกับแนวทางของพรรค พท. เราก็ยินดี บางพรรคร่วมตอบรับ บางพรรคยังไม่แสดงท่าทีส่วนเรื่องการโหวตของ ก.ก.จะช่วย พท.หรือไม่นั้น เราได้แจ้งพรรคร่วมแล้วว่าเป็นเรื่องของเอกสิทธิของพรรค ก.ก. ทั้งนี้ ในวันที่ 3 สิงหาคม ช่วงบ่าย เราจะออกแถลงการณ์ตั้งรัฐบาลใหม่อีกครั้งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่พรรค พท.แถลงถอนตัวจากเอ็มโอยู 8 พรรคร่วม เพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่นั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมได้คาร์ม็อบมาถึงหน้าที่ทำการพรรค พท.พอดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image