‘เลขา รทสช.’ ไม่ติดใจ ‘เศรษฐา’ ชี้จะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็ไม่ขัด โต้กลับปม 2 ลุง
เมื่อเวลา 14.55 น. วันที่ 2 สิงหาคม ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ประเด็นจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ภายหลังที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาแถลงฉีกเอ็มโอยู และประกาศไม่มีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ร่วมรัฐบาลว่า จุดยืนยังเหมือนเดิม แต่ก็ต้องรอดูเป็นสเต็ป ขั้นแรก คือ การโหวตนายกรัฐมนตรี เราประกาศชัดเจน หากมีพรรคก้าวไกล และการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 เราไม่สามารถโหวตให้ได้ หากหลุดจากเงื่อนไขตรงนี้ ก็ต้องรอดูสเต็ปต่อไปว่าจะสามารถไปกันได้หรือไม่
“อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยเพิ่งแถลงข่าวไป ยังมีเนื้อหาสาระคิดว่าคงไม่ง่ายขนาดนั้น ส่วนที่จะมีการแถลงจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ 3 สิงหาคมนั้น ตนยังไม่ทราบ และทางพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ติดต่อมา ทั้งนี้ ตนยืนยันว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.)”
เมื่อถามว่า มองคุณสมบัติของ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย (พท.) อย่างไร นายเอกนัฏกล่าวว่า การโหวตนายกฯทั้ง 2 ครั้งติดมาตรา 112 โดยครั้งที่ 3 ต้องประกาศให้ชัด ต้องมีการอธิบายและหารือกันในรัฐสภาจากฝั่ง ส.ว. และ ส.ส. คิดว่าประเด็นมาตรา 112 ต้องมีการชี้แจงก่อนที่จะโหวตนายกฯ ซึ่งถือเป็นข้อแรก และหากประกาศชัดแล้วว่าไม่เดินหน้าแก้ไข รวมถึงไม่เป็นวาระในรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล ก็จะสามารถเริ่มพูดคุยกันได้ แต่ส่วนจะร่วมหรือไม่ร่วมนั้นจะมีการพูดคุยกันก่อน เพราะอาจจะมีหลายเรื่องก็ได้
เมื่อถามว่า ยังติดปัญหา 2 ลุง คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อยู่จะแก้ปัญหาอย่างไร นายเอกนัฏกล่าวว่า คงไม่ต้องแก้ปัญหา เพราะในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ เราไม่ได้ติดใจที่จะเป็นฝ่ายค้าน หรือเป็นรัฐบาล เราสามารถทำหน้าที่ได้ เพียงแต่จะอยู่ตรงไหนต้องรักษาจุดยืน
“การพูดถึงไม่เอาลุงนั้น สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ลาออกไปแล้ว จะเอากันไปถึงไหน อยากให้พูดถึงอนาคตดีกว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด หากจมอยู่กับอดีตก็ไม่มีอนาคต” นายเอกนัฏกล่าว
เมื่อถามว่า จะทำความเข้าใจกับมวลชนฝั่งเราอย่างไร หากต้องทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย (พท.) นายเอกนัฏกล่าวว่า การรักษาจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แม้จะเป็นพรรคที่มี 36 เสียง จุดยืนชัดเจนในเรื่องการโหวตนายกฯคงมีผลต่อการตั้งรัฐบาลยาก เพราะเป็นตัวเลขที่ไม่ได้เยอะมาก ซึ่งในวันนี้จะมีการหารือกันภายในพรรคถึงทิศทางการโหวตนายกฯว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ข้อมูลยังไม่พอในการตัดสินใจ เพียงแต่ต้องยึดมั่นในอุดมการณ์ของเราที่เหลือ ต้องมีการพูดคุย ซึ่งมีรายละเอียดมากกว่านี้ และเสียงของพรรครวมไทยสร้างชาติต้องไปในทิศทางเดียวกัน
“พรรคต้องมีจุดยืน เห็นได้ว่าตั้งแต่โหวตนายกฯจนกระทั่งถึงวันนี้ ไม่มีครั้งไหนที่เรางดออกเสียง เราชัดเจนว่าเอาหรือไม่เอา ส่วนเรื่องฟรีโหวตนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เราไม่ทำกันแบบนั้น” นายเอกนัฏกล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญภายหลังตั้งรัฐบาล จะต้องไม่มีมาตรา 112 ด้วยหรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยหรือนัดหมายอะไรกัน ส่วนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นก็ต้องดูว่าเขาจะแก้อะไร หากเป็นผลดีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนจะแก้เพื่อให้การโหวตนายกฯครั้งต่อไปง่ายขึ้นนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ขอให้ชัดเจนคือเรื่องมาตรา 112 จะแก้ไขหรือไม่ ถ้ามีการแก้ไขก็ประกาศออกมาให้ชัด จะได้มีความชัดเจนกับคนที่ต้องไปโหวตเลือกนายกฯ
