‘ธนกร’ ไม่ติดใจชื่อ ‘เศรษฐา’ หากไม่ยุ่ง 112 ย้ำ ‘บิ๊กตู่’ ลาออกแล้ว ไม่เกี่ยวกับ รทสช.

‘ธนกร’ เชื่อโหวตนายกฯ 4 ส.ค. รอบเดียวจบ ย้ำ ‘บิ๊กตู่’ ลาออกแล้วไม่เกี่ยวกับพรรค เหน็บ ‘ถ้าเราไปดูอะไรที่มันโง่ๆ มาก มันจะทำให้เราโง่ตามไปด้วย’ ชี้ไม่ติด คุณสมบัติ ‘เศรษฐา’ หากไม่ยุ่ง 112 มอง พท.เลือกตั้งใหม่ เป็นเรื่องดี

เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 2 สิงหาคม ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคเพื่อไทยแถลงฉีกเอ็มโอยู 8 พรรค มีโอกาสทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติได้ร่วมรัฐบาลหรือไม่ว่า ตนคงพูดไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของคณะกรรมการบริหารพรรค แต่ที่ผ่านมาหัวหน้าพรรคยืนยันมาตลอดว่า เราสามารถทำงานได้กับทุกพรรคที่ยึดประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และไม่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ดังนั้น อยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณา

เมื่อถามว่า เงื่อนไขการร่วมรัฐบาลยังเป็นเงื่อนไขเดิมที่ไม่แก้ไขมาตรา 112 ใช่หรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า ยังเหมือนเดิม เราเป็นพรรคเล็กมีแค่ 36 เสียง ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายค้านหรือเป็นรัฐบาล คิดว่า 36 คน ก็มีพลังในการทำงาน

เมื่อถามถึงกรณีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 4 สิงหาคม ที่จะถึงว่าแนวโน้มของพรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นอย่างไร นายธนกรกล่าวว่า วันนี้ในที่ประชุมพรรคคงมีการพูดคุยกัน อย่างที่ตนบอกว่าการเมือง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมทุกอย่างก็จะจบ ตอนนี้ประชาชนรอรัฐบาลใหม่อยู่ รัฐบาลปัจจุบันเตรียมถ่ายโอนทุกอย่างให้รัฐบาลใหม่แล้ว หลายโครงการที่เป็นประโยชน์ก็เชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะไปทำต่อ เมื่อถามย้ำว่า การโหวตนายกฯ คิดว่าจะโหวตครั้งเดียวผ่านเลยหรือไม่นั้น นายธนกรกล่าวว่า คิดว่าถ้าพูดคุยกันก่อนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร สำหรับพรรค รทสช. อยู่ที่หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค ตนพร้อมที่จะปฏิบัติตามมติพรรค

Advertisement

เมื่อถามว่า พรรคไม่มีปัญหาเรื่อง 2 ลุง ที่เป็นเงื่อนไขของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แล้วใช่หรือไม่ นายธนกกล่าวว่า เรื่องนี้พรรคชัดเจนมากที่สุดตั้งแต่วันแรกแล้ว เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะสมาชิกพรรคได้ลาออกไปตั้งแต่ตอนแรก และไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคแล้ว ซึ่งเรื่องนี้อาจจะเป็นเหตุผลของบางพรรคการเมืองเท่านั้น

“บางทีการดูข่าวการพูดของนักการเมืองรุ่นใหม่ รุ่นเก่ามากเกินไปแต่ละคนก็เก่งๆ กันทั้งนั้น มีเพื่อนผมส่งงานวิจัยของต่างประเทศมาให้พบว่าถ้าเราไปดูอะไรที่มันโง่ๆ มาก มันจะทำให้เราโง่ตามไปด้วย เพราะฉะนั้นก็ต้องระมัดระวังในการดูด้วย ที่ผมพูดไม่ได้มีความหมายอะไร” นายธนกรกล่าว

เมื่อถามต่อว่า มองคุณสมบัตินายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นอย่างไร นายธนกรกล่าวว่า ถ้านายเศรษฐายืนยันชัดเจนเกี่ยวกับมาตรา 112 ก็สามารถทำงานได้ เพราะเป็นทั้งแคนดิเดตนายกฯ และนักธุรกิจ ไม่ได้มีปัญหาอะไร

Advertisement

ส่วนก่อนหน้านี้ที่นายเศรษฐาเคยพูดว่าจะแก้ไขมาตรา 112 ทางพรรครวมไทยสร้างชาติ หากร่วมรัฐบาลจะมั่นใจได้อย่างไร นายธนกรกล่าวว่า พรรคการเมือง ในการทำงานการเมือง ต้องมีความชัดเจนก่อน ไม่ใช่ว่าวันนี้จะให้พรรคการเมืองอื่นยกมือขึ้นให้ไปก่อนคงไม่ได้ คงต้องมีการเจรจานอกรอบกันก่อน และผู้ใหญ่ทุกพรรคก็ต้องพูดคุยกัน ต้องมีการแสดงเจตจำนงที่ชัดเจนให้ประชาชนทราบก่อนแล้วจึงเดินหน้าต่อไป

ส่วนเรื่องที่ผ่านมาตนคิดว่า ทุกคนจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองกระทำ ทั้งนี้ ส่วนตัวคิดว่าไม่มีใครรังเกียจรังงอนใคร ทุกคนคงคิดเอาประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลักและเดินไปข้างหน้า

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยแถลงว่าภารกิจแรกที่จะเข้ามาทำคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลง่ายขึ้นถือเป็นการผิดวัตถุประสงค์ของการเป็นรัฐบาลหรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า นโยบายของแต่ละพรรค พรรคร่วมรัฐบาลต้องพูดคุยกันก่อน เมื่อตกลงกันได้ก็เดินหน้าไป ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลายอย่างทำได้ แต่คงไม่ใช่การแก้มาตรา 112 ก็ยอมรับว่ารัฐธรรมนูญบางมาตราก็ต้องมีการปรับ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำได้ แต่ก็ต้องพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเป็นฉันทามติของทุกพรรคร่วมรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยบอกว่าหากแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จจะคืนอำนาจให้ประชาชนคือการเลือกตั้งใหม่ นายธนกรกล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ดี ส่วนใหญ่ที่ผ่านมาพอแก้รัฐธรรมนูญเสร็จ ไม่นานก็จะมีการยุบสภาเหมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ แต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่ว่า 1-2 ปีเสร็จ บางที 3 ปี หรืออาจจะครบวาระของรัฐบาลก็ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image