ปดิพัทธ์ พร้อมทำทุกหน้าที่ หากต้องไขก๊อกรองปธ.สภา ให้ก้าวไกลได้เก้าอี้ผู้นำฝ่ายค้าน

‘ปดิพัทธ์’ ยัน ไม่เครียดหากต้องไขก๊อกรอง ปธ.สภา ชี้เป็นเพราะ รธน. 60 ลั่น พร้อมทำทุกหน้าที่

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กล่าวถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตามรัฐธรรมนูญหากพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นฝ่ายค้าน นายปดิพัทธ์ จะต้องออกจากตำแหน่งรองประธานสภา ว่า สิ่งที่นายวิษณุพูดถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเหตุใดรัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2560 จึงเขียนแบบนี้ ไม่ทราบเจตนารมณ์ ซึ่งประเทศอื่นก็ไม่ได้ห้ามเอาไว้ แต่แน่นอนว่าในรัฐธรรมนูญได้บันทึกเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจน

ส่วนพรรคก้าวไกลคงให้ทางพรรคหารือกันเอง เพราะกลายเป็นว่าจะต้องเลือกตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งเนื่องจากตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะต้องไม่มีสมาชิกพรรคที่มาจากตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถือว่าเป็นกิจการภายในของพรรคก้าวไกล ตนไม่ขอก้าวล่วง และไม่ทราบรายละเอียดว่ามีการหารือกันหรือยัง เนื่องจากตนไม่ได้เข้าประชุมพรรค และเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรค

เมื่อถามว่า มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ตนพร้อมในทุกบทบาทแล้ว ตอนนี้ยังเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรอยู่ ก็ได้ทำตามวิสัยทัศน์ที่ได้ประกาศเอาไว้ให้เรียบร้อย และหากไม่เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรก็ยังมีบทบาทของ ส.ส. และกรรมาธิการฯ ก็สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มภาคภูมิเช่นกัน ไม่ได้รู้สึกเสียดาย

Advertisement

เมื่อถามว่า กรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ หากรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรจะมีเงื่อนไขอย่างไรนั้น นายปดิพัทธ์กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เพราะเรื่องของนายพิธา ก็กำลังเจออยู่ว่าเป็นความไม่แน่นอนของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ

เมื่อถามว่า มีโอกาสเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคเพื่อรับตำแหน่งหรือไม่ นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบ
ส่วนจะทำให้สภา เป็นสภาของประชาชนอย่างไรนั้น หากต้องออก ตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ตนจะไปผลักดันต่อในคณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร และข้อเสนอหลายอย่าง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรก็เห็นด้วย และตรงกับวิสัยทัศน์ของเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรอยู่แล้วจึงคิดว่า สิ่งที่ตนเสนอสามารถไปต่อได้

เมื่อถามว่า ตั้งหลักอย่างไร เมื่อพรรคเพื่อไทย (พท.)ไปเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ขณะนี้ ขอโฟกัสที่งานของตัวเอง และย้ำว่าไม่มีความเสียใจ

Advertisement

นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะรัฐธรรมนูญ ฉบับปี พ.ศ.2560 ที่มีปมปัญหาเยอะ ดังนั้นกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะมาจากประชาชนจริงๆ และเข้าใจกระบวนการว่าประเทศเราควรจะไปอย่างไร สร้างรัฐสภาแบบไหน ซึ่งไม่ใช่มีเฉพาะปมนี้ แต่ยังมีปมให้ ส.ว. มาแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ซึ่งฝ่ายที่เครียดไม่ใช่ตน แต่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้และประชาชนที่จับตาดูอยู่

เมื่อถามว่า ยังหวังหรือไม่ว่าพรรคเพื่อไทยจะกลับมาง้อขอร่วมรัฐบาล นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็น และเป็นงานของฝ่ายเจรจาที่จะไปเจรจากันเอง

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยพร้อมขอโทษและขอขมาพรรคก้าวไกล เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้นั้น นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องของทีมเจรจา ซึ่งตนเป็นคนวงนอกมากๆ ก็ขอทำงานของตัวเองหากมี 1 วัน ก็ทำ 1 วัน หากมี 4 ปีก็ทำ 4 ปี ตนก็ไม่ได้คิดอะไร และคิดว่าตอนนี้หลายอย่างก็ผลักดันได้เร็วกว่าที่คิด

“ก็ยังทำงานเต็มที่ ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็ตาม แต่ก็รู้สึกแปลกที่พรรคอันดับ 1 ชนะการเลือกตั้ง เสียงอันดับ 1 ไม่ได้เป็น แกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และคิดว่าความแปลกพวกนี้เกิดจากรัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2560 กับการสืบทอดอำนาจของ คสช. ซึ่งคิดว่าอย่าไปคิดเป็นสาระที่จะต้องยึดเอาไว้” นายปดิพัทธ์กล่าว

เมื่อถามว่า รู้สึกว่าพรรคก้าวไกลพลาดตั้งแต่ต้นที่ปล่อยตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรให้กับพรรคอื่นหรือไม่ นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ไม่มีอะไรพลาด ทุกอย่างเป็นการเจรจาที่ดีที่สุดในตอนนั้น

“การเมืองตอนนี้ หลายท่านก็เครียด เพราะมีการเปลี่ยนแปลงรายวัน ก็อยากให้ติดตามการเมืองและเชื่อใจ ว่ากระบวนการต่างๆ เดินหน้าได้ พรรคที่แต่ละท่านเลือกมา ก็ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ขอให้ประชาชนจับตาดูและตัดสิน ไม่ต้องเครียดมาก เพราะยังมีเรื่องใหญ่ๆ อีกเยอะ เช่น หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อยกร่างใหม่ก็ต้องมีการทำประชามติหลายรอบ จะต้องมีเรื่องการตั้ง ส.ส.ร. จึงเป็นสิ่งที่ตื่นเต้นที่จะต้องทำร่วมกับประชาชนอีกเยอะ” นายปดิพัทธ์กล่าว

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image