นิกร หนุน ตั้งส.ส.ร. แก้รธน. ทั้งฉบับ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ตั้ง รัฐบาลสมานฉันท์

“นิกร” หนุน ตั้งส.ส.ร. แก้รธน. ทั้งฉบับหนุนก้าวข้ามความขัดแย้ง ตั้ง รัฐบาลสมานฉันท์ รับ มีส.ว.เตือน ระวังถูกหลอก

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ที่พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า จากการที่พรรคเพื่อไทยทาบทามพรรคชาติไทยพัฒนาเข้าร่วมรัฐบาล มีการเน้นย้ำนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งตน ในฐานะที่คลุกคลีอยู่กับเรื่องนี้มายาวนาน ตั้งแต่สมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งประสบความสำเร็จเรื่องรัฐธรรมนูญ ปี 40 ที่มีการตั้ง ส.ส.ร. มีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ส่วนเนื้อหาในรัฐธรรมนูญก็เป็นเนื้อหาที่เปลี่ยนไปตามเวลา แต่การมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน คือสาระสำคัญ

นายนิกรกล่าวว่า ดังนั้นที่มีการเสนอนโยบายรัฐบาลที่กำลังจะตั้งขึ้นใหม่ มีเรื่องรัฐธรรมนูญขึ้นมา เรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่สำคัญ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความขัดแย้ง วิกฤตรัฐธรรมนูญเป็นปัญหามาก วิธีการแก้ก็คือการมีรัฐธรรมนูญที่เป็นฉบับซึ่งประชาชนรู้สึกเป็นเจ้าของ จะดีที่สุดคือมี ส.ส.ร. ในรายละเอียดที่พรรคชาติไทยพัฒนานำเสนอ คือ อย่าแตะหมวดหนึ่ง หมวดสอง และทำประชามติต่างหาก ไม่ใช่ทำประชามติโดยใช้ความเห็นแก้ทั้งฉบับแล้วทำเป็นเนียนควบหมวดหนึ่งหมวดสองอย่างนี้ไม่ได้ หลักการนี้สำคัญ ส่วนที่เหลือก็ต้องให้แก้ได้ง่าย เพราะโลกขณะนี้หมุนเร็ว ดังนั้นหากรัฐธรรมนูญแก้ยากจะมีปัญหา ซึ่งทีมของพรรคเพื่อไทยที่ทำเรื่องนี้ ก็ได้พูดคุยหารือกันบ้างแล้ว เราทำงานด้านนี้ร่วมกันมานานกว่า 20 ปี

Advertisement

นายนิกรกล่าวว่า ขณะนี้มีประเด็นว่า ส.ว.เป็นกังวลเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แบบทะลุไปตลอดซอย ซึ่งเรื่องนี้ผมเห็นว่าไม่น่ากังวล เพราะเราเชื่อใจกันได้เนื่องจากเคยทำร่วมกันมาก่อน และเราใช้รัฐสภาในการตัดสิน ดังนั้นส.ว.ไม่ว่าจะชุดนี้หรือชุดหน้า ก็ยังสามารถระงับยับยั้งได้อยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าตั้งขึ้นมาแล้วสภาผู้แทนราษฎรจะไปในทางเดียว และที่สำคัญคือเราให้ประชาชนเป็นคนยกร่าง ไม่ใช่ยกร่างกันเอง ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ควรกังวล เราควรเดินไปข้างหน้า เพื่อไปเชื่อมกับการดำรงอยู่ของประชาชน หากประเทศไม่มีความขัดแย้ง ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย ถือเป็นเรื่องดีที่มีรัฐบาลที่อาจเรียกได้ว่า รัฐบาลสมานฉันท์ ซึ่งสโลแกนก้าวข้ามความขัดแย้ง จริงๆแล้ว เป็นสโลแกนของพรรคชาติไทยสมัยนายบรรหาร เพื่อสร้างความปรองดอง คำเต็มๆ คือ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ร่วมแรงปฏิรูปประเทศ ดังนั้นคุณูประการที่จะเกิดขึ้นขณะนี้คือความขัดแย้งที่เคยมีหนักหนาสาหัสมานาน จะจบแล้ว ผมเห็นว่ารัฐบาลต่อจากนี้ น่าจะถูกที่ถูกเวลา จะได้เดินหน้าต่อไป ซึ่งก็รู้สึกยินดี

“สำหรับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่กำลังจะมีขึ้น จากที่สัมผัสกับ ส.ว.มาหลายคน บางคนก็เตือนว่าระวังจะถูกหลอก เรากำหนดคนอื่นไม่ได้ แต่ด้วยความที่เรามีสัจจะ เราก็ต้องเชื่อด้วยว่าคนอื่นก็มีสัจจะด้วย ถึงเวลาที่เราต้องเชื่อกันบ้าง เพราะถ้าหากเราไม่เชื่อใครเลย สุดท้ายเราก็ไม่เชื่อตัวเอง พรรคชาติไทยพัฒนาเชื่อตัวเองก่อนแล้วไปเชื่อคนอื่น” นายนิกรกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image