ส่องดวงเมือง ‘การเมืองป่วน’ วิกฤต‘นิติสงคราม’
ผ่านการเลือกตั้งมา 2 เดือนกว่า แต่ประเทศไทยก็ยังฟอร์มรัฐบาลใหม่ไม่ได้สักที ด้วยมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นหลายอย่าง และยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ว่าจะเป็นอย่างไร “อ.บุศรินทร์ ปัทมาคม” นักโหราศาสตร์และคอลัมนิสต์ชื่อดัง ทำนายดวงเมืองในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ รวมทั้งทำนายคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ไว้ดังนี้
โหรบุศรินทร์วิเคราะห์ดวงเมืองว่า เป็นดวงที่ค่อนข้างน่าวิตก เพราะยังอยู่ระหว่าง “ดวงตก” เพราะดาวพฤหัสฯ เป็นกาลกิณีจรมาทับลัคนาดวงเมือง และมีดาวราหูทับต่ออีก ดาวราหูนี่สำคัญ จะคอยรังแกดวงเมืองตลอด ช่วงปี 2565-2566 ดาวราหูจรทับลัคนาดวงเมือง สถานการณ์ตอนนี้เป็น “นิติสงคราม” มีโอกาสที่ “พรรคก้าวไกล” จะถูกยุบ แม้กระทั่ง “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.)จะถูกพิจารณาเพราะมีคนเตรียมฟ้อง
“ดวงเมืองเดินวิปริต เพราะราหูจรมาทับลัคนาดวงเมืองตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งจนถึงขณะนี้ เหมือนเมื่อปี 2498 ราหูเป็นดาววิบากกรรม คอยรังแกดวงเมืองให้ไม่สงบ มีเหตุการณ์ลอบฆ่า ลอบทำร้ายกัน และนักศึกษาจะไม่ยอม ก็จะมีการเดินขบวนต่อต้านรัฐบาล โดยมีม็อบเดินขบวน โดยช่วงที่เป็น ‘หลุมใหญ่’ ของบ้านเมือง คือวันที่ 18 กันยายน ถึง 17 ตุลาคม 2566 ช่วงวันที่ 17 พฤศจิกายน ถึง 16 ธันวาคม 2566
“ทั้ง 2 ช่วงเรียกว่าเป็นช่วงที่เป็นหลุมของบ้านเมือง น่าเป็นห่วงเพราะราหูเป็นดาววิบากกรรม จรมาทับลัคนา เหตุการณ์ร้ายก็จะเกิดขึ้น”
เหตุการณ์บ้านเมืองไม่สงบมีอยู่ 2 เรื่องคือ 1.ราหูทับลัคนา 2.ดาวพฤหัสฯเป็นกาลกิณีจรทับลัคนาดวงเมือง ซึ่งขณะนี้ดาวพฤหัสฯจร กลายเป็นกาลกิณีจร ทับลัคนาของดวงเมือง ระหว่างวันที่ 21 เมษายน 2566-21 เมษายน 2567 หลังจากนั้นบ้านเมืองถึงจะสงบ พ้นเคราะห์
“ดาวพฤหัสฯเป็นดาวหัวหน้าศุภเคราะห์ เป็นดาวที่สุภาพเรียบร้อย แต่คราวนี้เป็นกาลกิณี เลยมาแผลงฤทธิ์แบบเงียบๆ เพราะฉะนั้น ทำให้เกิดมีวิกฤตนิติสงคราม หมายถึงบ้านเมืองจะตกอยู่ในอำนาจของผู้รู้กฎหมาย เพราะดาวพฤหัสฯเป็นกาลกิณีจรในช่วงอายุย่าง 242 ปี ความยุ่งยากจะเกิดขึ้น บ้านเมืองจะไม่สงบ เพราะดาวพฤหัสฯเป็นหลักในการทำนิติสงคราม ขณะนี้เหตุการณ์ยังหวั่นไหวอย่างสงบ บวกกับดาวราหูที่เป็นวิบากกรรมเดินมากุมลัคนา จึงมีแนวโน้มว่าจะมีการลอบทำร้ายกันอย่างน้อย 1-2 ราย การต่อต้านรัฐบาลที่ยังคุกรุ่นอยู่อย่างเงียบๆ รัฐบาลใหม่ในระหว่างนี้คงทำอะไรได้ไม่มากนักนอกจากการแตกแยก แบ่งพรรคแบ่งพวก หรือปฏิวัติซ้อน ซึ่งผมให้ 30 เปอร์เซ็นต์ จนไปถึง 17 ตุลาคม 2566
ต่อคำถามที่ว่า การตั้งรัฐบาลจะเป็นอย่างไร อ.บุศรินทร์เผยว่า การฟอร์มรัฐบาลครั้งนี้เพื่อไทยจะได้เป็นหลักในการฟอร์มทีมรัฐบาล
“ประเทศไทยจะได้รัฐบาลใหม่ภายในปีนี้บอกไม่ได้ว่าจะเป็นใครที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะไม่ได้เอาดวงแต่ละคนมาดู ดวงอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร และพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผมไม่ทราบ แต่สำหรับบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เชื่อว่าไม่ได้เป็น เพราะดวงของท่านไม่มีอำนาจยิ่งใหญ่พอที่จะปกครองแผ่นดิน”
อย่างไรก็ตาม อ.บุศรินทร์เผยว่า บ้านเมืองจะสงบเป็นขั้นเป็นตอนไป ช่วงแรก 17 ตุลาคม 2566 ช่วงที่ 2 หลังจากวันเกิดดวงเมืองวันที่ 21 เมษายน 2567 อะไรๆ ก็จะดีขึ้น
“ดาวราหูย้าย 17 ตุลาคม 2566 ดาวพฤหัสฯย้าย 30 เมษายน 2567 ขอให้ดาวราหูกับดาวพฤหัสฯแยกกันไป บ้านเมืองจะสงบ ซึ่งจริงๆ ดาวพฤหัสฯไม่ใช่ดาวร้าย แต่ร้ายตามจังหวะชีวิตของดวงเมือง ทำให้ดาวพฤหัสฯกลายเป็นกาลกิณีจร เป็นเรื่องของนิติสงคราม”
นับจากนี้คนไทยต้องเตรียมตัวเตรียมใจอย่างไร อ.บุศรินทร์แนะนำว่า ข้อ 1 คอยฟังข่าว จะมีข่าวร้ายมากกว่าข่าวดี และจะมีลักษณะของการลอบทำร้ายกันสัก 1-2 ราย ที่แต่ละพรรคเค้าจะคิดบัญชีกัน ข้อ 2 คือดวงเมืองจะเริ่มดีขึ้น
“ตอนนี้จะเงียบๆ ซึมๆ ไปก่อนเนื่องจากนิติสงคราม นักกฎหมายจะไม่โฉ่งฉ่างกับใคร อาจมีมาทำปฏิวัติซ้อนได้บ้าง ให้ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถ้ามี ประชาชนจะไม่นับถือแผ่นดินไปอีกยาวนาน แต่ถ้าไม่มีปฏิวัติซ้อนทุกอย่างจะดีขึ้นตามกาลเวลา มันจะดีขึ้นตามลำดับ เมื่อดวงเมืองอายุย่าง 243 ปี” อ.บุศรินทร์กล่าวทิ้งท้าย
