‘เอกนัฏ’ ชี้ พท. ยังไม่ติดต่อชวนร่วมรบ. ย้ำจุดยืนเดิม ไม่แก้ม.112 ไร้ ก.ก. ลั่น “ให้เป็นฝ่ายค้านก็พร้อม”

‘เอกนัฏ’ ชี้ พท. ยังไม่ติดต่อชวน รทสช. ร่วมรบ. ย้ำจุดยืนเดิม ไม่แก้ม.112 ไร้ ก.ก. ลั่น “ให้เป็นฝ่ายค้านก็พร้อม”

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีได้รับการติดต่อร่วมรัฐบาลจากพรรคเพื่อไทย (พท.) แล้วหรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า ยัง ตนก็ทราบจากทางข่าวว่าจะมีการเชิญ แต่ตอนนี้ยังไม่มี แต่เท่าที่ฟังจากข่าวดูก็คงจะมีการติดต่อมาในอีกไม่นาน เมื่อถามย้ำว่า คิดว่าจะได้รับการติดต่อมาในเร็วๆ นี้หรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า ตนไม่ทราบ

เมื่อถามถึงกรณีการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ นายเอกนัฏกล่าวว่า คิดว่าข่าวที่ปล่อยกันนั้นมันมั่วกันไปหมด จนถึงเวลานี้ยังไม่มีการต่อรองเรื่องเก้าอี้อะไรใดๆ ทั้งสิ้น แม้กระทั่งข่าวลือที่ออกมาว่าจะต้องเอาคนนั้นออก คนนั้นไม่เข้าหรืออะไรต่างๆ ล้วนไม่เป็นความจริงเลย

“การตัดสินใจของพรรครวมไทยสร้างชาติจะอยู่บนหลักการที่เราได้ประกาศ สื่อสารไปแล้วต่อสาธารณะ ว่าต้องไม่มีเรื่องมาตรา 112 ก็คือต้องไม่มีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) หลังจากนั้นเราก็พร้อมพูดคุย ทั้งหมดนี้การตัดสินใจว่าร่วมหรือไม่ร่วมอยู่บนหลักการทั้งนั้น เราไม่แคร์เรื่องของตำแหน่ง เรื่องของกระทรวง ไม่มีปัญหาทั้งสิ้น แม้กระทั่งที่จะไปเป็นฝ่ายค้านเราก็พร้อม” นายเอกนัฏกล่าว

Advertisement

เมื่อถามว่าทาง รทสช.ได้ประเมินไว้หรือไม่ว่าหากร่วมรัฐบาลควรจะได้กี่เก้าอี้ นายเอกนัฏกล่าวว่า ไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่ได้อยู่ในใจเลยว่าต้องได้เท่าไหร่ คิดก่อนว่าหากมีการประสานมา มีการพูดคุย การร่วมหรือไม่ร่วมก็ต้องอยู่บนหลักการ ฝ่ายรัฐบาลต้องมีความชัดเจน เช่น เรื่องมาตรา 112 ว่าจะไม่ผลักดันต่อ และอาจจะมีเงื่อนไขเรื่องอื่นๆ เช่น การทำงานร่วมกันในอนาคต นโยบาย หรืออะไรที่จะต้องเร่งดำเนินการเพื่อเป็นประโยชน์ให้กับประชาชน เพราะทุกคนก็ต้องคิดถึงประเทศเป็นหลัก

“เรามีแค่ 36 คน ก่อนหน้านี้ก็ทราบดีแล้ว เราไม่อยู่ในสภานะที่จะไปเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เราคงไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย รวมไปถึงถ้าในที่สุดมันมีการพูดคุยกันแล้วเชิญไปร่วมรัฐบาลขอโหวตให้นายกฯ ทั้งหมด เงื่อนไขอยู่บนหลักการทั้งหมด ไม่มีเรื่องของการเจรจาต่อรอง หรือว่ามาลงรายละเอียดในเรื่องของบุคคลแน่นอนว่าจะต้องเป็นคนนั้น เป็นคนนี้ตามข่าวลือที่ออกมา ไม่เป็นความจริง” นายเอกนัฏกล่าว

Advertisement

เมื่อถามว่า รทสช.มีสิทธิจะโหวตให้ก่อนแล้วค่อยไปคุยกับทาง พท.ทีหลังหรือไม่ เพราะ พท.เสนอแนวทางให้โหวตนายกฯให้ก่อนแล้วค่อยคุยกันอีกที นายเอกนัฏกล่าวว่า มันต่างกัน คือการโหวตหรือไม่โหวตมันก็ต้องดูเงื่อนไขและผลของการพูดคุยก่อน สำหรับเราถ้าจะให้ เราก็พร้อมให้ได้หมด แล้วก็ไม่ได้ติดใจเรื่องของกระทรวง เรื่องของบุคคล แต่หลักการมันต้องชัดเจน ต้องคุยกันก่อน แล้วก็ยืนยันบนหลักการให้ชัดเจนก่อน

“ถึงวันนั้นผมว่าเสียงรวมไทยสร้างชาติมันทั้งยากแล้วก็ง่าย สำหรับบางพรรคกว่าจะตกลง ตกผลึก สรุปได้ ต้องลงรายละเอียดถึงขั้นว่ากระทรวงไหนเป็นใคร ของเราไม่มีเรื่องนั้น แต่ว่าหลักการสำคัญมากกว่าสิ่งอื่นใด” นายเอกนัฏกล่าว

เมื่อถามย้ำว่า หากต้องโหวตให้นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย (พท.) หรือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายเอกนัฏกล่าวว่า ก็ต้องมาคุยกัน ตนคิดว่ามันอยู่ที่พฤติกรรมของคนว่าตกลงแล้วยังยืนยันชัดเจนไหม ว่าจะไม่ผลักดันในเรื่องของ มาตรา 112 แล้วมันก็อาจจะมีมากกว่านี้อีก เพราะว่าภารกิจแรกที่จะต้องร่วมกันทำ มาตรฐานของรัฐบาล เช่น เรื่องของความโปร่งใสจะเป็นอย่างไร

“เราก็ต้องมีการวางกฎกติกาไว้ล่วงหน้า ก่อนที่จะคบกันมันก็ต้องคุยกันก่อนว่าจะเป็นอย่างไร” นายเอกนัฏกล่าว

เมื่อถามว่า รทสช.จะตัดสินใจได้เมื่อไหร่ หรือก่อนวันโหวตนายกฯเลย นายเอกนัฏกล่าวว่า เราไม่รู้ เพราะว่ายังไม่ได้มีการพูดคุย หากมีการพูดคุยแล้วก็จะรู้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image