มติก้าวไกล ไม่โหวตนายกฯ พท. ชู 3 ข้อต้านตั้ง รบ.ข้ามขั้ว ‘ชลน่าน’ โวเสียงหนุน ‘เศรษฐา’ เกิน 375 ศาล รธน.นัดชี้ชะตาพิธาวันนี้ปมชงชื่อซ้ำ
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงผลการประชุม ส.ส.ของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ว่าในวาระการโหวตนายกรัฐมนตรี ที่ประชุม ส.ส.พรรค ก.ก.มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ส.ส.ของพรรคก้าวไกล จะไม่โหวตให้กับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย (พท.) และรัฐบาลที่กำลังผสมพันธุ์ข้ามขั้วอยู่ เพราะต้องการแสดงท่าทีที่ว่าไม่ต้องการมีส่วนร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ด้วยเหตุผล ดังนี้ 1.รัฐบาลผสมข้ามขั้วที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีการนำพรรครัฐบาลขั้วเดิมเกือบทั้งหมดมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย เท่ากับขัดต่อเจตนารมณ์ของประชาชนที่แสดงออกอย่างชัดเจนในวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 ว่าต้องการพลิกขั้วรัฐบาล 2.การที่พรรคก้าวไกลจะโหวตให้แคนดิเดตนายกฯรัฐบาลผสมข้ามขั้วนี้ ไม่ใช่การปิดสวิตช์ ส.ว. ตามที่มีการกล่าวอ้าง แต่เป็นการเดินตาม ส.ว. เพื่อปิดสวิตช์ก้าวไกล เพราะหากทุกพรรคการเมืองมีเจตนาที่จะปิดสวิตช์ ส.ว. และเคารพเจตจำนงของประชาชนอย่างแท้จริง ก็ต้องแสดงออกโดยการโหวตให้รัฐบาลเสียงข้างมากที่จัดตั้งโดยก้าวไกลตั้งแต่แรก ไม่ใช่การจัดตั้งรัฐบาลตามความต้องการของ ส.ว. และอ้างว่าปิดสวิตช์ ส.ว.
ชี้ตั้งรบ.ข้ามขั้วขัดเจตนารมณ์
3.แม้ขณะนี้จะยังไม่มีความชัดเจนเรื่ององค์ประกอบคณะรัฐมนตรี แต่เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าหน้าตาคณะรัฐมนตรีจะไม่แตกต่างจากรัฐบาลเดิมมากนัก พรรคก้าวไกลไม่เชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลโดยเกรงใจผู้มีอำนาจแต่ไม่เกรงใจประชาชน จะผลักดันวาระที่ก้าวหน้าและนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างแท้จริงได้ พรรค ก.ก.ยืนยันอีกครั้งว่าการไม่โหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีผสมข้ามขั้วนั้น ไม่ได้พิจารณาบนพื้นฐานของคุณสมบัติของตัวแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย แต่เป็นการตัดสินใจบนจุดยืนทางการเมือง และคำสัญญาที่พรรคก้าวไกลได้ให้ไว้กับประชาชนคือ มีเราไม่มีลุง มีลุงไม่มีเรา ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ซึ่งพรรค ก.ก.ไม่สามารถตระบัดสัตย์ต่อประชาชนได้
โวหนุนเศรษฐาเกิน375เสียง
ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.ว่า ได้แจ้งข้อสรุปวันเลือกนายกรัฐมนตรีต่อที่ประชุมว่าอาจเป็นวันที่ 18 สิงหาคม หรือวันที่ 21 สิงหาคม ซึ่งพรรค พท.อยากได้วันที่ 18 สิงหาคม โดยพรรค พท.มีมติเสนอชื่อนายเศรษฐาเป็นผู้ซึ่งสมควรได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่ง ส.ส.พรรค พท.จะยกมือให้โดยพร้อมเพรียงไม่ขาดแม้แต่เสียงเดียว และเชื่อว่าจะมีเสียง ส.ส.และ ส.ว.เกิน 375 เสียง ที่จะสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรรค พท.
ผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีมติไม่โหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท. นพ.ชลน่านกล่าวว่า ต่างฝ่ายต่างมีความคิด เคารพ ไม่ก้าวล่วงในมิติทางการเมือง ยืนยันว่าทำงานได้กับทุกพรรค ส่วนจะมีความขัดแย้งหรือแตกแยกหรือไม่นั้น ยืนยันว่าไม่มี
ศาลรธน.นัดชี้คดีชงชื่อพิธาซ้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 16 สิงหาคม เวลา 09.30 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้นัดประชุมเพื่อพิจารณากรณีผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 กรณีรัฐสภา มีมติตีความว่าการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ให้ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบในรอบที่สอง เป็นญัตติทั่วไป ต้องห้ามนำเสนอญัตติซ้ำอีกตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พ.ศ.2563 ข้อ 41 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เป็นการละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของผู้ร้องเรียนตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 5 วรรคหนึ่ง มาตรา 25 วรรคสาม และมาตรา 27 หรือไม่ พร้อมกับมีคำขอให้ชะลอการโหวตนายกรัฐมนตรีไปจนกว่าจะมีคำวินิจฉัย โดยเป็นการพิจารณาต่อเนื่องมาจากการประชุมเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ภายหลังเห็นว่าคำร้องนี้มีประเด็นสำคัญที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและมีประเด็นเชิงหลักการการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่จะต้องพิจารณาเพิ่มเติม จึงให้เลื่อนการพิจารณาสั่งรับคำร้องและให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญศึกษาข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณา