ป.ป.ช.สุราษฎร์ ชี้มูล นักการเมืองท้องถิ่น-ข้าราชการ ปลอมลายมือ ยักยอกเงิน ทุจริตถุงยังชีพ

ป.ป.ช.สุราษฎร์ฯ แถลงชี้มูลทุจริต 6 เรื่อง โดนระนาว 2 นักการเมืองท้องถิ่น 4 ข้าราชการ ปลอมลายมือถอนเงินกองทุน ทุจริตถุงยังชีพ เบิกงบเท็จ ยักยอกเงิน ฮั้วจัดซื้อ เรียกเงินบริจาค

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี นางสาวอภิสร์ญา พัดเกร็ด ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมแถลงผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในรอบ 10 เดือนตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 – 31 กรกฎาคม 2566 ใน 3 ด้าน ประกอบด้วยด้านการตรวจสอบและเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ของเจ้าพนักงานของรัฐในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี , ด้านการป้องกันการทุจริตและด้านการปราบปรามการทุจริต

นางสาวอภิสร์ญา กล่าวว่า ด้านการปราบปรามการทุจริต แยกเป็นงานด้านตรวจสอบและงานด้านไต่สวน ซึ่งงานด้านการตรวจสอบประเภทหน่วยงานของรัฐ มีจำนวนเรื่องที่ยกยอดมาจากปี 2565 จำนวน 92 เรื่องและมีเรื่องร้องเรียนใหม่ (1ต.ค.65-31 พ.ค.66) จำนวน 94 เรื่อง รวมแล้ว 186 เรื่อง รับไว้ไต่สวน 6 เรื่อง ส่งหน่วยงานภายนอก 4 เรื่อง ไม่รับพิจารณา 43 เรื่อง รวมดำเนินการแล้วเสร็จ 53 เรื่อง นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณา 49 เรื่อง มีหน่วยงานประเภทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 78 เรื่อง ส่วนราชการส่วนภูมิภาค 59 เรื่อง มากที่สุดเรื่องจัดซื้อจัดจ้าง 62 เรื่อง เรื่องที่ดินและทรัพยากร ธรรมชาติ 50 เรื่อง ส่วนงานไต่สวนเบื้องต้นมีเรื่องยกมา 35 เรื่อง มีเรื่องรับใหม่ 6 เรื่อง รวม 41 เรื่องคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิด 6 เรื่อง อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณา 15 เรื่อง

สำหรับผลการชี้มูลความผิด 6 เรื่อง ได้แก่

Advertisement

1.การกระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีปลอมลายมือชื่อคณะกรรมการกองทุนบ้านธารน้ำร้อน หมู่ 1 ต.ท่าฉาง อ.ท่าฉาง ถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝาก 10 ครั้งรวม 500,500 บาท ของพนักงานธนาคารออมสิน สาขาท่าฉาง เบียดบังเอาเงินดังกล่าวไปเป็นของตนเองหรือของผู้อื่นโดยทุจริต

2.การทุจริตจัดซื้อถุงยังชีพ ประจำปีงบประมาณ 2554 ระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี กับบริษัทเอกชน ระหว่างวันที่ 31 มีนาคม 2554 – 22 เมษายน 2554 จำนวน 3 ครั้ง ผู้ถูกกล่าวหาเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมพวกรวม 15 คน โดยพฤติการณ์ให้บริษัทเอกชนที่มีส่วนได้เสียเป็นผู้เสนอราคาและทำสัญญาซื้อขายสินค้าอุปโภคบริโภคกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นข้อต้องห้าม และการจัดซื้อครั้งที่ 3 วันที่ 22 เมษายน 2554 ไม่มีการจัดซื้อขายกันจริง ทำให้บริษัทได้รับเงินไป 34 ล้าน 5 แสนบาท ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณามีมติให้รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีมูลความผิดอาญาหลายตามมาตร ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการดำเนินการต่อไป ในจำนวนนี้ มี 4 คน มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป

3.กรณีทุจริตเบิกจ่ายค่าห้องพัก ค่าอาหาร ในโครงการประชุมสัมมนา ปีงบประมาณ 2556 โดยมีผู้ถูกกล่าวหาตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลท่าทองใหม่ พร้อมพวกรวม 6 คน ในกรณีนี้ 3 คน มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป

Advertisement

4.การยักยอกเงินของบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด จำนวน 30,599.47 บาท ของพนักงานไปรษณีย์ ที่ทำการไปรษณีย์พระแสง

5.การจัดซื้อหนังสือเรียนประจำปีการศึกษา 2556 ไม่ดำเนินการจัดซื้อหนังสือเรียนประจำปีการศึกษา 2556 ให้เป็นไปตามระเบียบฯพัสดุ ของผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปลายคลอง อำเภอชัยบุรี พร้อมพวก รวม 13 คน

6.กรณีเรียกรับเงินบริจาคจากผู้ปกครองเพื่อรับนักเรียนเข้าเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ปีการศึกษา 2556 และเบียดบังเงินไปโดยทุจริต โดยมีผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัยสุราษฎร์ธานี อำเภอไชยา พร้อมพวก รวม 3 คน

นางสาวอภิสร์ญา กล่าวเพิ่มเติมว่า การชี้มูลความผิดอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image