‘เศรษฐา’ปูด‘ชูวิทย์’ขู่ ไม่ซื้อที่ดิน-เจอแฉสกัดนายกฯ

‘เศรษฐา’ปูดถูก‘ชูวิทย์’ขู่ ไม่ซื้อที่ดิน-เจอแฉสกัดนายกฯ หมายเหตุ - นายเศรษฐา ทวีสิน

หมายเหตุ – นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย (พท.) และอดีตผู้บริหารบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โพสต์คลิปวิดีโอความยาว 7.44 นาที ผ่านเฟซบุ๊ก “เศรษฐา ทวีสิน-Srettha Thavisin” ชี้แจงกรณี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง กล่าวหาการซื้อที่ดินย่านทองหล่อของบริษัทแสนสิริว่าเป็นการตั้งบริษัทนอมินีขึ้นมาเพื่อเลี่ยงภาษี โดยกล่าวหานายชูวิทย์มีเบื้องหลังที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้

สวัสดีครับ ผมเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยและอดีตผู้บริหารบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีในการทำธุรกิจของผม เป็นที่รับทราบและยอมรับของสังคมมาโดยตลอด

วันนี้ผมออกมาพูดในฐานะที่เคยเป็นผู้บริหารบริษัทแสนสิริ และในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย บริษัทแสนสิริผ่านพ้นวิกฤตมาหลากหลายรูปแบบ ทีมงานทุกคนบริหารงานอย่างโปร่งใส ในรูปแบบของคณะกรรมการ ตามข้อบังคับของบริษัทและตลาดหลักทรัพย์ฯ เราทำงานตามหลักธรรมาภิบาล

แสนสิริเติบโตในวงการอสังหาริมทรัพย์อย่างมั่นคง แข็งแรง ไม่เคยถูกตั้งข้อกล่าวหา หรือแม้กระทั่งตั้งคำถามถึงความโปร่งใสในการทำงานและการประกอบการของบริษัทแต่อย่างใด

Advertisement

ผมออกมาวันนี้เพื่อให้ข้อเท็จจริงและตอบคำถามของสังคมในกรณีการจัดซื้อที่ดินของบริษัทแสนสิริและเรื่องนอมินี ในขณะที่ผมเป็นผู้บริหาร ผมยืนยันว่าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันการซื้อขายที่ดินเพื่อประกอบการบริษัท เราดำเนินการด้วยความถูกต้อง ตามกฎหมายในทุกขั้นตอน ไม่เคยมีวิธีการนอกระบบกฎหมายเพื่อเบียดบังผลประโยชน์ของรัฐ หรือแสวงหาประโยชน์เป็นการส่วนตัว

ผมขอปฏิเสธข้อกล่าวหาในทุกกรณีที่คุณชูวิทย์นำมากล่าวอ้าง ซึ่งเต็มไปด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนให้เกิดความเสียหาย ในทุก EP ที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำมาสร้างกระแสนั้น ไม่ว่าจะเป็นที่ดินแปลงสารสิน หรือที่ดินซอยทองหล่อ เป็นเรื่องแบบเดียวกัน คุณต้องยอมรับว่าแสนสิริ ในฐานะผู้ซื้อทำธุรกรรมกับผู้ขายรายต่างๆ โดยชำระค่าที่ดินตามราคาตลาด ที่สมเหตุสมผล สัญญาซื้อขายเป็นสัญญาต่างตอบแทน ผู้ซื้อและผู้ขายมีหน้าที่ที่ต้องชำระหนี้ซึ่งกันและกัน รวมทั้งหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายกำหนด

บริษัทแสนสิริคือผู้ซื้อ ซึ่งไม่สามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการบริหารภายในของฝ่ายผู้ขายได้ในทุกขั้นตอน ฝั่งผู้ซื้อไม่มีนอมินี ไม่มีการปล่อยกู้ให้ผู้ขาย ความจริงเป็นการจดจำนองเพื่อเป็นการประกันการปฏิบัติตามสัญญาและห้ามผิดสัญญาของบริษัทผู้ขาย และประกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเป็นจำนวนเงิน 1,000 ล้านบาท มีหลักฐานชัดเจน

Advertisement

ผมยืนยัน ไม่มีการทำสัญญากู้ครับ อีกทั้งไม่มีการสมคบคิดใดๆ และไม่เคยมีเงินทอนใดๆ กลับมาที่ผม หรือพนักงานแสนสิริคนไหนทั้งสิ้น แปลงโครงการ KHUN by YOO มูลค่าที่ดิน 1,100,000 บาทต่อตารางวา เป็นราคาที่ดินที่ถือว่าดีมาก ราคานี้ไม่มีเงินทอนให้ใครหรอกครับ

ขอย้ำอีกครั้ง คุณชูวิทย์ต้องแยกผู้ขายกับผู้ซื้อให้ได้ อย่าบิดเบือน และแสนสิริไม่มีนอมินีแน่นอน หลังจากนี้คุณจะพูดเรื่องที่ดินอีกกี่แปลงก็ได้ คุณต้องแยกผู้ขายกับผู้ซื้อให้ชัดเจน

คุณชูวิทย์ต้องใช้ความจริงที่ไม่บิดเบือน คุณโกรธเคืองที่บริษัทไม่ซื้อที่ดินคุณ ที่ซอยสุขุมวิท 24 เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว เราตกลงกันจากราคา 2,000 ล้านบาท เหลือ 1,800 ล้านบาท แต่ที่ดินของคุณชูวิทย์มีเงื่อนไขติดพันกับบริษัทไรมอน แลนด์

แสนสิริไม่สามารถซื้อที่ดินที่มีนิติกรรมซ้อนได้ คุณไม่พอใจ แต่เพราะเงื่อนไขของที่ดินของคุณเอง แสนสิริเป็นบริษัทมหาชน ผมทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด 100% และไม่มีอะไรที่ผิดกฎหมาย รวมถึงไม่ผิดจริยธรรมใดๆ

ที่ผ่านมา 10 เดือน ตั้งแต่กันยายนปีที่แล้วจนมาถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในวันที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังจากที่ข่าวออกเรื่องมติของพรรคเสนอชื่อผมในสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรี ผมโดนข่มขู่ คุณฝากข้อความผ่านคนใกล้ชิดของคุณมา สั่งให้ผมมัดจำเงินเพื่อซื้อที่ดินของคุณ และทำเอ็มโอยูแบบไม่มีเงื่อนไขในการซื้อที่ดินของคุณ

ผมไม่ได้ทำอะไรผิด คุณไม่มีสิทธิมาข่มขู่ผม คุณติดต่อผู้ใหญ่มากมายให้มาบอกผมว่า คุณจะแฉผม และทำทุกอย่างเพื่อให้ผมไม่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าจะให้ไม่แฉ ให้ผมตกลงซื้อที่ดิน 2,000 ล้านบาททันทีแบบไม่มีเงื่อนไข ไม่งั้นคุณชูวิทย์จะเดินหน้าดิสเครดิตและด้อยค่าผมต่อไป

คุณชูวิทย์บิดเบือนไปถึงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้ประชาชนเข้าใจว่านโยบายนี้เป็นนโยบายฟอกเงินผ่านทางคอยน์ อะไรเลอะเทอะไปหมด ผมขอให้คุณชูวิทย์อย่าได้เอาเรื่องนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของพรรคเพื่อไทยมาโจมตีอย่างไม่มีหลักการ โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี มีผลประโยชน์ต่อประชาชน ประเทศชาติอย่างมาก สามารถช่วยเหลือประชาชนได้เป็นจำนวนมากถึง 50 ล้านคน ทั้งผู้ผลิต ทั้งการจ้างงาน ทั้งการยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคน และเป็นนโยบายสำคัญที่สุดเป็นอันดับหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทันที ทำให้ประเทศนั้นสามารถพลิก กู้กลับมาได้อีกครั้ง และงบประมาณทั้งหมดจะถูกตรงไปยังประชาชนทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป

การที่ผมพูดความจริงในครั้งนี้ ผมรู้ว่าคุณชูวิทย์ต้องไม่พอใจ และอาจไปฟ้องศาล ผมก็พร้อมที่จะนำพยานหลักฐานไปสู้กับคุณชูวิทย์ในศาลต่อไป

ผม เศรษฐา ทวีสิน ชีวิตผมตรวจสอบได้หมดทุกอย่าง ลูกผมมีงานที่ดีทำทุกคน ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามที ผมไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง ทุกๆ คนเตือนผมว่าอย่าลงการเมือง มันเปลืองตัว ผมขอบคุณในความหวังดีของทุกท่าน

แต่ผม เศรษฐา ทวีสิน วันนี้ผมตัดสินใจเอง ผมอาสาเข้ามาตรงนี้เพราะอยากทำให้ประเทศชาติและเศรษฐกิจดีขึ้น เพิ่มรายได้ให้ประเทศ ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากวันแรกที่ผมตัดสินใจจะทำจนถึงวันนี้ ผมมั่นใจจะทำให้ประเทศชาติเหมือนเดิม

ผมย้ำอีกครั้ง ศัตรูของผมคือความยากจนและความไม่เสมอภาคของประชาชน เป้าหมายของผมคือความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทยทุกคน ขอบคุณครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image