ผู้เขียน | เดินหน้าชน |
---|
ทุจริตคอร์รัปชั่นตกเป็นจำเลยในฐานะมะเร็งร้ายกัดกินสังคมไทยเรื้อรัง
งบประมาณประเทศแต่ละปีถูกทอนไปยังกลุ่มสมรู้ร่วมคิดมูลค่ามหาศาลหลายแสนล้านบาท
ทุกรัฐบาลพยายามป้องปราม ให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าปัญหาปากท้องประชาชน พลิกฟื้นเศรษฐกิจ
รัฐบาล “ประยุทธ์ 2” (2562-ปัจจุบัน) ก็เช่นกัน ยกระดับเป็นวาระแห่งชาติตามแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี จัดงบประมาณต่อต้านทุจริต 1.5 หมื่นล้านบาท (ปี 2563-2566)
แต่องค์กรเพื่อความโปร่งใสระหว่างประเทศ (Transparency International) จัดอันดับภาพลักษณ์คอร์รัปชั่น (CPI) ของไทย จากอันดับ 96 จาก 180 ประเทศในปี 2560 ลงมาอยู่ที่ 101 ในปี 2565
งบประมาณที่ใช้จ่าย ไม่สามารถลดการทุจริตอย่างน่าพอใจ
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ ประเมินผลการป้องปรามทุจริตช่วง “ประยุทธ์ 2” มีความเป็นรูปธรรมใน 2 เรื่อง
หนึ่ง การปฏิรูปจัดซื้อจัดจ้างให้โปร่งใส โดยร่วมมือกับองค์กรภาคสังคมและภาคธุรกิจขยายการใช้มาตรการ “ข้อตกลงคุณธรรม” (Integrity Pact) เพื่อตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐที่มีมูลค่าสูงเพิ่มเติมจากรัฐบาลประยุทธ์ 1 เพิ่มอีก 66 โครงการ รวมมูลค่างบประมาณ 4.16 แสนล้านบาท
การศึกษาของทีดีอาร์ไอพบว่า โครงการก่อสร้างของรัฐมูลค่าสูงโดยทั่วไปมีส่วนต่างของราคากลางและราคาที่ผู้ชนะการประมูลเสนอเพียงร้อยละ 0.5 แต่โครงการก่อสร้างที่มีลักษณะคล้ายกันแต่เข้าร่วมในข้อตกลงคุณธรรม ซึ่งมีผู้สังเกตการณ์เข้ามาตรวจสอบร่างทีโออาร์และการเสนอราคา เพิ่มส่วนต่างถึงร้อยละ 7.5
หนึ่ง สานต่อ “กิโยตินกฎระเบียบ” (Regulatory Guillotine) หรือการทบทวนกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อยกเลิก หรือปรับปรุงกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ที่หมดความจำเป็นหรือไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ เพื่อลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ในการออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจต่างๆ ต้นตอสำคัญของคอร์รัปชั่น
ด้านที่น่าผิดหวัง ก็คือ “ประยุทธ์ 2” ไม่ได้แสดงถึงความพยายามในการปฏิรูปตำรวจและกองทัพ ทั้งที่ถูกตั้งคำถามด้านความโปร่งใสอยู่บ่อยครั้ง
ในช่วง “ประยุทธ์ 1” มีการเสนอร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติเพื่อกำจัดการซื้อขายตำแหน่ง และร่าง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีอาญาเพื่อให้งานสอบสวนและการทำสำนวนคดีเป็นอิสระจากกัน
ปรากฏว่า “ประยุทธ์ 2” ใช้เวลาเกือบ 2 ปีทบทวนร่าง พ.ร.บ.ทั้งสองฉบับ สุดท้ายมีเพียงร่าง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติผ่านรัฐสภาได้ในปลายปี 2565 เท่ากับยังไม่ได้นำไปสู่การปฏิรูปตำรวจอย่างแท้จริง จนเกิดกรณีทุจริตที่มีนายตำรวจพัวพันหลายเรื่อง “ตั๋วช้าง” ส่วยรถบรรทุก เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์
ด้านกองทัพก็ไม่ปรากฏความพยายามจะปฏิรูปให้มีความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ เช่น กองทัพขอผ่อนผันไม่เข้าร่วมข้อตกลงคุณธรรมในโครงการจัดซื้ออาวุธ และเกิดข่าวการยักยอกเบี้ยเลี้ยงกำลังพล และการคุกคามทหารผู้เปิดโปงทุจริต
ทีดีอาร์ไอฝากข้อเสนอรัฐบาลใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ควรขยายผลข้อตกลงคุณธรรมให้ครอบคลุมโครงการจัดซื้อจัดจ้างในวงกว้างขึ้น โดยเฉพาะโครงการมูลค่าสูง มีความเสี่ยงทุจริตสูง หรือต้องจัดซื้อจัดจ้างอย่างเจาะจง อาทิ งานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การจัดซื้ออาวุธและการจัดซื้อยาเวชภัณฑ์ นอกจากนี้ รัฐบาลใหม่ควรเร่งปรับปรุงกฎระเบียบเกี่ยวกับการขออนุญาตจากหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะการขออนุญาตก่อสร้าง
ที่สำคัญต้องเร่งสะสางปัญหาตกค้างมาจาก “ประยุทธ์ 2” ด้วยการเร่งปฏิรูปกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เช่น ร่าง พ.ร.บ.การสอบสวนคดีอาญา และออกกฎหมายลูกของ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฉบับใหม่ เพื่อทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจโปร่งใสขึ้น และควรเร่งปฏิรูปการใช้งบประมาณของกองทัพให้สามารถตรวจสอบได้
เห็นภาพลางๆ รัฐบาลที่กำลังฟอร์มกันอยู่ ไม่รู้จะคาดหวังได้กี่มากน้อย
สัญญา รัตนสร้อย